คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ธนบัตรของกลางเป็นพยานวัตถุที่เจ้าพนักงานตำรวจใช้ล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย แม้จะมิได้ลงบันทึกประจำวัน ไว้ โจทก์ก็อ้างเป็นพยานเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226 เพราะ ไม่มีกฎหมายห้าม แผนที่เกิดเหตุเป็นเพียงพยานเอกสารจำลองถึงที่เกิดเหตุตามที่พนักงานสอบสวนได้จัดทำขึ้นแม้จะมีระเบียบให้พนักงานสอบสวนจัดทำขึ้นเพื่อประกอบคดีแต่ถ้าพนักงานสอบสวนมิได้จัดทำ ก็หาทำให้พยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบเสียไปแต่อย่างใดไม่หากพยานโจกท์ ฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องศาลก็ลงโทษจำเลยได้โดยไม่จำต้องมีแผนที่เกิดเหตุ การที่จำเลยเอาเมทแอมเฟตามีนมาขายให้แก่สายลับ ผู้ล่อซื้อแม้สายลับจะไม่มีเจตนาซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยมาเพื่อเสพหรือแสวงหาประโยชน์อื่นใดจากเมทแอมเฟตามีน ก็ถือว่าจำเลยได้ขายเมทแอมเฟตามีนตามบทนิยามคำว่าขายที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 4 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13 ทวิ, 62, 89, 106, 106 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และคืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง มาตรา 89 จำคุก 6 ปี ลดโทษให้คงจำคุก 4 ปี คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ธนบัตรของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจใช้ทำการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนมิได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจซึ่งตามระเบียบจะต้องมีการลงบันทึกประจำวันก่อนไปทำการล่อซื้อเพื่อยืนยันการกระทำผิดของจำเลยนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 226 บัญญัติว่า พยานวัตถุ ฯลฯ ซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีผิด ฯลฯ ให้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ ธนบัตรของกลางเป็นพยานวัตถุที่เจ้าพนักงานตำรวจใช้ล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยแม้จะมิได้ลงบันทึกประจำวันดังจำเลยฎีกา โจทก์ย่อมอ้างเป็นพยานเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้ไม่มีกฎหมายห้ามส่วนที่จำเลยฎีกาว่าพนักงานสอบสวนมิได้จัดทำแผนที่เกิดเหตุคดีนี้ ซึ่งเป็นระเบียบที่พนักงานสอบสวนจะต้องจัดทำขึ้นเพื่อประกอบคดีนั้น เห็นว่า แผนที่เกิดเหตุเป็นเพียงพยานเอกสารจำลองถึงที่เกิดเหตุตามที่พนักงานสอบสวนได้จัดทำขึ้น แม้จะมีระเบียบให้พนักงานสอบสวนจัดทำขึ้นเพื่อประกอบคดีดังจำเลยฎีกาแต่ถ้าพนักงานสอบสวนมิได้จัดทำก็หาทำให้พยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบเสียไปแต่อย่างใดไม่ หากพยานโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ศาลก็ลงโทษจำเลยได้โดยไม่จำต้องมีแผนที่เกิดเหตุ
จำเลยฎีกาข้อสุดท้ายว่า การที่สายลับไปทำการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย สายลับมิได้มีเจตนาจะก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ในการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนจริง เพียงล่อซื้อเพื่อให้มีการจับกุมจำเลยในข้อหาขายเมทแอมเฟตามีนเท่านั้นจึงไม่น่าเอาพฤติการณ์การล่อซื้อของสายลับมาลงโทษจำเลยในข้อหาขายเมทแอมเฟตามีนได้นั้น เห็นว่า การที่จำเลยเอาเมทแอมเฟตามีนมาขายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ แม้สายลับจะไม่มีเจตนาซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยมาเพื่อเสพหรือแสวงหาประโยชน์อื่นใดจากเมทแอมเฟตามีน ก็ถือว่าจำเลยได้ขายเมทแอมเฟตามีนตามบทนิยามคำว่าขายที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 แล้ว
พิพากษายืน

Share