แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อสาลเห็นว่าการกะทำของจำเลยไม่เปนผิด  แม้จำเลยจะไม่ได้ต่อสู้  สาลก็ยกขึ้นวินิฉัยไม่เอาผิดแก่จำเลยได้
จำเลยถูกจับถานนำเงินตราต่างประเทสเข้ามาไนราชอานาจักรก่อนถึงถานพรมแดน  คือยังมิทันนำเงินล่วงพ้นด่านเข้ามานั้น  ยังไม่มีความผิด  แต่เงินตราต่างประเทสต้องยึดไว้ไห้โอกาสจำเลยปติบัติตามกดหมายว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทสเข้ามาไนราชอานาจักร
อ้างดีกาที่ 811/2483
ธนบัตรไทยของจำเลยที่ถูกจับรวมกับเงินตามต่างประเทศนั้น ก็ยังเปนธนบัตรไทยหยู่นั่นเอง  เงินตราต่างประเทสที่จะนำเข้ามาไนราชอานาจักรและจะ+ไห้โอกาสแก่จำเลยขออนุญาต+ไว้ทั้งหมด  ไม่ใช่ยึดไว้ฉเพาะส่วนที่เกินพันบาท
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า  กลางคืนวันที่ ๓ พรึสภาคม ๒๔๘๖ จำเลยขนทองคำ  เงินตราต่างประเทส  น้ำตานซาล มเล็ดถั่ว เข้ามาไนราชอานาจักรผิดพระราชบัญญัติสุลกากรและพระราชบัญญัติว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทสเข้ามาไนราชอานาจักรขอไห้ลงโทส  จำเลยไห้การรับสารภาพ
สาลชั้นต้นพิพากสาลงโทสตามฟ้อง
สาลอุธรน์พิพากสายกฟ้องฉเพาะข้อน้ำตานและถั่วเข้ามา  โดยเห็นว่าแม้จำเลยจะไม่ได้ไห้การว่านำมาเพื่อบริโภคระหว่างทางก็ดี  แต่เปนของเล็กน้อย  มีางไห้เห็นว่าจำเลยติดตัวมาเพื่อไช้เอง  ส่วนเรื่องนำเงินต่างประเทสเข้ามาได้ความจำเลยถูกจับก่อนถึงด่านพรมแดน  จำเลยจึงไม่มีโอกาสขออนุญาตต่อรัถมนตรีว่าการกะซวงการคลังจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้  ไห้คืนเงินเท่ากับ ๑๐๐๐ บาทไห้จำเลย  เงินนอกนี้ไห้ยึดไว้ไห้โอกาสจำเลยปติบัติตามกดหมายว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทสเข้ามาไนราชอานาจักร  นอกจากที่แก้นี้คงยืนตามสาลชั้นต้น
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า  ไนเรื่องน้ำตานซายกับถั่วนั้นเปนของเล็กน้อย  แม้จำเลยจะไม่ได้ต่อสู้เช่นนั้นก็ไม่สำคัน  เพราะถ้าข้อเท็ดจิงเปนดังนั้น  สาลก็ยกขึ้นวินิฉัยไม่เอาผิดแก่จำเลยได้  พิพากสายืนตามสาลอุธรน์
ไนเรื่องเงินตราต่างประเทสนั้น  เห็นว่าจำเลยถูกจับก่อนถึงด่านพรมแดน  ดีกาที่ ๘๑๑/๒๔๘๓  วินิฉัยเปนบันทัดถานว่า  เมื่อจำเลยยังมิทันนำเงินล่วงพ้นด่านเข้ามาจำเลยก็ยังไม่มีความผิดท  ซึ่งข้อเท็ดจิงตรงกับคดีนี้  จำเลยย่อมไม่มีผิดดุจกัน  ส่วนที่สาลอุธรน์สั่งไห้คืนเงินเท่ากับ ๑๐๐๐ บาท ไห้จำเลยนั้น  สาลดีกาไม่เห็นด้วย  เพราะไม่ปรากตว่าจำเลยมีเงินเท่ากับ ๑๐๐๐ บาทนั้นมาเพื่อไช้สอย  ประการหนึ่งจำเลยมิได้ไห้การต่อสู้ดังนั้น  และประการสองจำเลยไห้การว่าธนบัตรไทยของจำเลยรวมราม ๓๕๐๐ บาทก็ถูกจับไปด้วย  ซึ่งสแดงว่าแม้จำเลยตั้งไจเอามาไช้ส่วนตัวก็ต้องเปนธนบัตรไทยนั้นเอง  หาไช่เงินตราต่างประเทสตามฟ้องไม่จึงพิพากสาแก้ว่า  เงินตราต่างประเทศทั้งหมดนั้นไห้ยึดไว้ไห้โอกาสจำเลยปติบัติตามกดหมายว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาไนราชอานาจักร  นอกจากที่แก้  คงพิพากสายืน

