คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นกับ ส.และต. ภายหลังจากที่โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามพันธะที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยแก่ ส.และต. ผู้เสียหายแล้วผลของสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิเรียกร้องของโจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เสียหายที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยผู้ทำละเมิดให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ได้จ่ายไปนั้นได้โดยหาจำต้องบอกกล่าวหรือทวงถามเสียก่อนไม่ แม้ฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายถึงจำนวนเงินที่รับประกันภัยและผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของรถยนต์ที่เอาประกันภัยหรือไม่ทั้งมิได้ส่งกรมธรรม์ประกันภัยมาพร้อมกับคำฟ้อง ก็ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะข้อความดังกล่าวเป็นรายละเอียดที่คู่ความสามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา และโจทก์ไม่จำเป็นต้องส่งกรมธรรม์ประกันภัยมาพร้อมกับคำฟ้องด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์กระบะตามทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2ตามรถยนต์คันที่ ส. ขับ ซึ่งมีโจทก์เป็นผู้รับประกันวินาศภัยในระยะกระชั้นชิดและด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุให้หยุดรถไม่ทันรถยนต์จำเลยที่ 1 จึงได้ชนท้ายรถยนต์ของ ส. อย่างแรงและได้รับความเสียหาย และ ส. กับคนที่นั่งมาในรถยนต์ของ ส.ได้รับบาดเจ็บ โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายของรถยนต์ให้แก่ ส.และจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแก่ ส. และคนที่นั่งมาในรถยนต์ของ ส. ผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วเป็นจำนวนเงิน 110,277 บาทโจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิเรียกร้องดังกล่าว จึงขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันทำละเมิดจนถึงวันฟ้องเป็นจำนวนเงิน 118,087 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน110,277 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและก่อนฟ้องโจทก์มิได้บอกกล่าวทวงถามก่อน
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยที่ 1ได้ใช้ค่าเสียหายเป็นค่าซ่อมรถยนต์ให้แก่ ส. และใช้ค่ารักษาพยาบาลแก่ ส. และ ต. เป็นที่พอใจแล้ว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้ข้อพิพาทในมูลละเมิดระงับไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิจาก ส. และ ต. ในมูลละเมิดดังกล่าว จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นที่ว่าโจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยในฐานะผู้รับช่วงสิทธิจาก ส. และ ต. หรือไม่ และโจทก์ต้องบอกกล่าวหรือทวงถามก่อนฟ้องหรือไม่ เห็นว่าแม้โจทก์มิได้ฎีกาโต้แย้งว่าข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 กับ ส. และ ต.มิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบโดยจำเลยทั้งสองมิได้นำสืบโต้แย้งฟังได้ว่า โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยแก่ ส. และต.เสียหายไปตามเอกสารหมาย จ.10 และ จ.18 ก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 3 และ7 กันยายน 2530 โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของบุคคลทั้งสองและอาจใช้สิทธิเรียกร้องในฐานะผู้รับช่วงสิทธิที่มีต่อจำเลยที่ 1ผู้ทำละเมิดได้ตั้งแต่วันที่โจทก์จ่ายค่าสินไหมทดแทนไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226 และ 880 วรรคหนึ่งแม้จะได้ความว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นกับ ส. และ ต. ในภายหลัง แต่ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวก็ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว ดังนั้นโจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เสียหายจึงมีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1ผู้ทำละเมิดให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ได้จ่ายไปนั้นได้โดยหาจำต้องบอกกล่าวหรือทวงถามเสียก่อนไม่ ส่วนที่จำเลยแก้ฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายถึงจำนวนเงินที่รับประกันภัย ส. ผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของรถยนต์ที่เอาประกันภัยหรือไม่ และมิได้ส่งกรมธรรม์ประกันภัยมาพร้อมกับคำฟ้องนั้น เห็นว่า ฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วส่วนจำนวนเงินที่รับประกันภัย และ ส. จะเป็นเจ้าของรถยนต์ที่เอาประกันภัยหรือไม่ เป็นรายละเอียดที่คู่ความสามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา และโจทก์ไม่จำเป็นต้องส่งกรมธรรม์ประกันภัยมาพร้อมกับคำฟ้อง ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 108,611 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยคิดจากต้นเงิน68,000 บาท นับแต่วันที่ 3 กันยายน 2530 และคิดจากต้นเงิน40,611 บาท นับแต่วันที่ 7 กันยายน 2530 เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยที่ 1 จะชำระเงินให้โจทก์เสร็จสิ้น

Share