แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนังสือมอบอำนาจท้ายคำร้องมีข้อความว่า.’…..ให้มีอำนาจในการขอรับเอารถยนต์ไถนาคันดังกล่าวจากพนักงานสอบสวนได้….ฯลฯ’ เป็นการมอบอำนาจให้รับรถไถจากพนักงานสอบสวนมิได้มีการมอบอำนาจให้มายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอคืนรถไถของกลาง เมื่อ ก. เจ้าของรถไถมิได้มอบอำนาจให้ ค. ยื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอรถไถของกลางคืน ค. จึงไม่มีอำนาจมายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อศาล
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯลฯและให้ริบรถไถของกลาง ต่อมานายเกรียงศักดิ์ ผู้ร้องมอบอำนาจให้นายคำ ลิพันธ์มายื่นคำร้องขอคืนรถไถของกลาง โดยอ้างว่าเป็นของผู้ร้อง นายคำ ลิพันธ์ เช่าซื้อไปจากผู้ร้อง และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด
โจทก์คัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งให้งดการไต่สวน และมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการดำเนินคดีนี้ นายคำ ลิพันธ์ เป็นผู้มายื่นคำร้องลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2525 ต่อศาล เพื่อขอคืนรถไถของกลางในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายเกรียงศักดิ์ พรเจริญ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของรถไถของกลาง แต่ตามหนังสือมอบอำนาจท้ายคำร้องเป็นการมอบอำนาจให้รับรถไถจากพนักงานสอบสวน มิได้มีการมอบอำนาจให้นายคำ ลิพันธ์ มายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอคืนรถไถของกลางแต่อย่างใด ซึ่งการดำเนินคดีเพื่อขอรถไถของกลางที่ศาลสั่งรับไว้ในคดีนี้ กับการขอรับรถไถจากพนักงานสอบสวนนั้นเป็นคนละเรื่องต่างหากจากกัน และไม่มีทางจะแปลว่ามีความหมายเป็นอย่างเดียวกัน เมื่อนายเกรียงศักดิ์ พรเจริญ มิได้มอบอำนาจให้นายคำ ลิพันธ์ ยื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอรถไถของกลางคืนนายคำ ลิพันธ์ จึงไม่มีอำนาจมายื่นคำร้อง หรือดำเนินคดีนี้ และหาใช่เป็นกรณีใบมอบอำนาจบกพร่องไม่
พิพากษายืน