คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2693/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทราบเรื่องที่ ป.ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินรวมทั้งที่ดินพิพาทให้แก่ตน และรู้ด้วยว่าที่ดินพิพาทจะตกเป็นของตนเมื่อ ป.ตายแล้ว การเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวโจทก์ก็ต้องมีเจตนามุ่งหวังว่าจะได้ที่ดินนั้นเมื่อ ป. ตายแล้วเช่นกัน ดังนี้ขณะ ป.ยังไม่ตาย จะถือว่าโจทก์ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของหรือครอบครองปรปักษ์เพื่อแย่งเอากรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทไม่ได้ ต้องฟังเป็นเรื่องครอบครองแทน ป.เท่านั้น และในกรณีเช่นนี้โจทก์จะครอบครองเป็นเวลานานเท่าใดก็ไม่ทำให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยการครอบครองตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางเป้ายกที่ดินโฉนดเลขที่ 3 ให้โจทก์และโจทก์ได้ครอบครองทำกินอย่างเป็นเจ้าของไม่มีผู้ใดโต้แย้ง ถึงปี พ.ศ. 2510 นางเป้ายังได้ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินดังกล่าวให้โจทก์อีกชั้นหนึ่ง ต่อมาวันที่ 25 พฤศจิกายน2524 ขณะนางเป้ามีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ จำเลยสมคบกับพวกจัดให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือและอ้างว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของนางเป้าลงไว้ในคำร้องขอตัดพินัยกรรมเลขที่ 252/2510 กับในคำร้องขอทำพินัยกรรมและใบพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองเลขที่ 847/2524 ที่มีข้อความระบุยกที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยคนเดียวโดยนางเป้าไม่ได้ทำด้วยตนเองและไม่สามารถล่วงรู้ข้อความในคำร้องและข้อความในพินัยกรรมเลขที่ 847/2524 จำเลยกับพวกได้กระทำขึ้นเพื่อตัดมิให้โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2525 นางเป้าได้ถึงแก่ความตาย จำเลยก็อ้างสิทธิเป็นผู้รับมรดกที่ดินดังกล่าวตามพินัยกรรมต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรีอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 3 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และสั่งเพิกถอนพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองทะเบียนเลขที่ 847/2524

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่เคยครอบครองที่ดินพิพาทเพราะนางเป้าเป็นผู้ครอบครองและให้บุคคลอื่นเช่าทำประโยชน์จนนางเป้าถึงแก่กรรม นางเป้าไม่เคยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ นางเป้าทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองทะเบียนเลขที่ 847/2524 ด้วยความสมัครใจของนางเป้าเอง และมีสติสัมปชัญญะดีฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า โจทก์ทราบเรื่องที่นางเป้าทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินรวมทั้งที่ดินพิพาทให้แก่ตนอยู่ตลอดเวลาและรู้ด้วยว่าที่ดินพิพาทจะตกเป็นของตนเมื่อนางเป้าตายแล้ว การเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวโจทก์ก็ต้องมีเจตนามุ่งหวังจะได้ที่ดินนั้นเมื่อนางเป้าตายแล้วเช่นกันดังนั้น ขณะนางเป้ายังไม่ตายจะถือว่า โจทก์ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของหรือครอบครองปรปักษ์เพื่อแย่งเอากรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทไม่ได้ต้องฟังเป็นเรื่องครอบครองแทนนางเป้าเท่านั้น และในกรณีเช่นนี้โจทก์จะครอบครองเป็นเวลานานเท่าใด ก็ไม่ทำให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยการครอบครองตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 การวินิจฉัยคดีเช่นนี้ตรงตามประเด็นข้อพิพาทแล้ว หาใช่เป็นเรื่องนอกประเด็นไม่ แล้ววินิจฉัยว่านางเป้าได้ทำพินัยกรรมทะเบียนเลขที่ 847/2524 ขณะมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์และพูดจารู้เรื่องดีทุกอย่าง พินัยกรรมดังกล่าวจึงสมบูรณ์และมีผลตามกฎหมาย

พิพากษายืน

Share