คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลมีคำสั่งตัดพยานจำเลยไม่ให้สืบต่อไป แล้วสั่งให้สืบพยานโจทก์ เช่นนี้จำเลยต้องโต้แย้งไว้ในสำนวน เพื่อเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยจะได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนั้นได้ ถ้าไม่โต้แย้งไว้ จะมาอุทธรณ์ฎีกาภายหลังไม่ได้
สัญญาเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือ เมื่อผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาแล้วย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กับนางเติมภรรยามีกรรมสิทธิ์ที่สวนโฉนดเลขที่ ๒๖๓๕ ตำบลคลองขุนพิทักษ์ อำเภอดำเนินสดวก จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๓ งาน ๓๒ วา เมื่อเดือนธันวาคม ๒๔๙๓ จำเลยได้เช่าที่สวนของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นทำ ค่าเช่าปีละ ๒,๔๐๐ บาท การเช่าไม่ได้ทำหนังสือ เช่าคราวละ ๑ ปี จำเลยค้างค่าเช่า พ.ศ. ๒๔๙๕ รวม ๙๐๐ บาท พ.ศ. ๒๔๙๖-๒๔๙๗ ยังไม่ได้ชำระ ครั้นเดือน ๗ พ.ศ. ๒๔๙๗ โจทก์จึงบอกเลิกการเช่าและให้จำเลยรื้อเรือนไป แต่จำเลยไม่ยอมออก จึงมาฟ้องให้ศาลขับไล่จำเลย
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เช่าสวนโจทก์ แต่สวนนี้เป็นของนางล้อม โจทก์ซื้อแต่เงินไม่พอจึงให้โจทก์ออกเงินให้ ๑๐,๐๐๐ บาท และเวลาโอนให้ใส่ชื่อโจทก์และนางเติมภรรยา โดยสัญญาว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ๑๐,๐๐ บาท ทั้งดอกเบี้ยและค่าป่วยการอีก ๕,๐๐๐ บาทเป็น ๑๕,๐๐๐ บาท โดยจำเลยจะผ่อนชำระปีละ ๒,๔๐๐ บาทจนกว่าจะชำระเสร็จแล้ว โจทก์จะโอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยภายหลัง จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมา โดยผ่อนชำระเงินให้โจทก์โดยไม่ติดค้าง ผ่อนไปได้ ๑๒,๐๐๐ บาท ยังค้างอีก ๓,๐๐๐ บาท โจทก์ไม่เคยขับไล่และฟ้องแย้งให้ศาลบังคับให้โจทก์รับเงินอีก ๓,๐๐๐ บาทแล้วโอนที่ให้จำเลย
โจทก์แก้ฟ้องแย้งว่าเจ้าของขายที่ให้โจทก์โดยตรง เป็นราคา ๒๐,๐๐๐ บาท แต่เกรงจะเสียค่าธรรมเนียมมากจึงทำเป็นขายกัน ๑๐,๐๐๐ บาท โจทก์ไม่ได้ออกเงินทดรองให้จำเลยซื้อสวน เมื่อโจทก์ซื้อแล้วจำเลยได้เช่าโจทก์ทำตลอดมา
ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาสืบพยานจำเลย ๒ ปากแล้วสั่งงดสืบพยานจำเลยที่เหลือ คงสืบพยานโจกท์ต่อไป แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ชาดในข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาว่า
๑.เมื่อศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยแล้ว จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ก่อนที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ตามประมวลวิ.แพ่งมาตรา ๒๒๖ จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ได้
๒.แม้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยจะไม่ได้ทำเป็นหนังสือต่อกัน เมื่อโจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้ว ย่อมมีสิทธฟ้องขับไล่จำเลยได้ หาขัดกับประมวลแพ่งฯ มาตรา ๕๓๘ ไม่
จึงพิพากษายืน

Share