คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

งานประจำของโจทก์คือกิจการของธนาคารในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคมจังหวัดลพบุรี เมื่อธนาคารผู้เป็นนายจ้างมีคำสั่งให้โจทก์ไปแข่งขันกีฬาที่จังหวัดระยองระหว่างพนักงานธนาคารด้วยกัน ย่อมเป็นงานพิเศษตามครั้งคราวที่ธนาคารผู้เป็นนายจ้างจะมีคำสั่งและเมื่อถึงวันปิดการแข่งขันโจทก์ก็ได้เดินทางกลับหน่วยงานประจำเช่นนี้ ตราบใดที่โจทก์ยังกลับไม่ถึงที่พักประจำในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคม ก็ยังได้ชื่อว่าโจทก์ปฏิบัติงานพิเศษกลับจากการแข่งขันกีฬา เป็นการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง การที่โจทก์ได้รับอันตรายระหว่างเดินทางกลับจึงเป็นการประสบอันตรายขณะปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างและมีสิทธิได้รับเงินทดแทนตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ปฏิบัติงานประจำอยู่ที่สำนักงานหน่วยอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2525 โจทก์ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการประจำสาขาลพบุรี ให้เป็นนักกีฬาของสาขาไปแข่งขันกีฬาประจำปีที่จังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นนโยบายอย่างหนึ่งของธนาคาร การไปแข่งขันกีฬาจึงถือว่าเป็นการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง และมีสิทธิเบิกเบี้ยเลี้ยงและค่าพาหนะเดินทางได้ตลอดระยะทางไปกลับระหว่างหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคมถึงจังหวัดระยอง โจทก์ออกเดินทางตามคำสั่งเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2525 วันที่ 13 เดือนเดียวกันเสร็จการแข่งขัน โจทก์จึงเดินทางกลับมาถึงสำนักงานสาขาธนาคารของนายจ้างที่จังหวัดลพบุรี ในวันที่ 15 โจทก์ออกเดินทางจากสาขาจังหวัดลพบุรีเพื่อไปปฏิบัติงานที่ที่ทำการหน่วยอำเภอพัฒนานิคม ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับชนกับรถไถลากเทลเลอร์ โดยมิใช่ความผิดหรือความประมาทของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสระหว่างปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง โจทก์ยื่นคำร้องขอเงินทดแทนต่อพนักงานเงินทดแทนของจำเลย ได้รับคำตอบว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนโจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลย แต่จำเลยวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทน ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลยและให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนเท่าที่โจทก์เจ็บป่วยทำงานไม่ได้ 28 วัน เป็นเงิน2,115.20 บาท ให้จ่ายเงินทดแทนเพราะเหตุโจทก์ตาตุ่มข้างซ้ายแตก ทำให้อวัยวะส่วนนี้หย่อนสมรรถภาพในการทำงาน ถือว่าเสียอวัยวะส่วนนี้ไปเป็นเงิน 123,200 บาท ให้จำเลยสั่งนายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงทั้งหมดให้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่า การเกิดอุบัติเหตุตามฟ้องถือมิได้ว่าเกิดขึ้นเนื่องจากการที่โจทก์ทำงานให้แก่ธนาคารผู้เป็นนายจ้าง ช่วงเวลานับแต่โจทก์ออกเดินทางจากสาขาลพบุรีเมื่อเวลา 06.30 นาฬิกาจนถึงขณะประสบอุบัติเหตุเมื่อเวลา 07.00 นาฬิกาไม่ใช่เวลาทำงานตามปกติของโจทก์ การแข่งขันกีฬาที่นายจ้างจัดขึ้นได้สิ้นสุดลงแล้ว การเดินทางจากสาขาลพบุรีไปยังหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคม ถือเป็นการเดินทางตามปกติของลูกจ้างเพื่อไปทำงานตามหน้าที่เหมือนอย่างเดินทางออกจากบ้านพักไปทำงาน ไม่ถือว่าอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานให้นายจ้าง โจทก์ไม่ได้รับอันตรายถึงกับสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะตามฟ้อง ไม่มีสิทธิเรียกค่าทดแทนด้วยเหตุดังกล่าว และไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยสั่งให้นายจ้างของโจทก์จ่ายค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนเพราะเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ 28 วัน ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลย ให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนให้แก่โจทก์โดยพิจารณาตามสิทธิที่โจทก์จะพึงได้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่16 เมษายน 2515 ข้อ 52, 55 ฯลฯ

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยมาว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรธนาคารมีสาขาจังหวัดลพบุรี โจทก์ทำงานประจำที่สำนักงานหน่วยอำเภอพัฒนานิคม ธนาคารมีคำสั่งให้โจทก์เดินทางไปแข่งขันกีฬาฟุตบอล ซึ่งธนาคารจัดขึ้นระหว่างพนักงานในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งสำนักงานใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยสำหรับปีเกิดเหตุได้กำหนดสถานที่แข่งขันคือจังหวัดระยอง โจทก์ออกเดินทางโดยขับขี่รถจักรยานยน์ของธนาคารจากหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคมไปยังสาขาลพบุรี แล้วขึ้นรถยนต์ซึ่งธนาคารจ้างเหมารับส่งนักกีฬาไปจังหวัดระยอง ครั้นการแข่งขันเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2525 วันรุ่งขึ้นโจทก์ขึ้นรถยนต์ที่ธนาคารจ้างเหมากลับถึงสาขาลพบุรี เมื่อเวลา 21 นาฬิกา โจทก์พักนอนที่สาขาลพบุรี 1 คืน วันที่ 15 เดือนเดียวกันเวลาเช้า โจทก์ขับขี่รถจักรยานยนต์ของธนาคารเพื่อกลับหน่วยงานประจำที่อำเภอพัฒนานิคมโดยมีพนักงานธนาคารอีกคนหนึ่งนั่งซ้อนท้ายไปด้วยระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุชนกับรถไถลากเทลเลอร์ เป็นเหตุให้โจทก์กับพวกได้รับบาดเจ็บแล้ววินิจฉัยว่างานประจำของโจทก์คือกิจการของธนาคารในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคมการซ้อมกีฬาหรือการแข่งขันกีฬาระหว่างพนักงานธนาคารเป็นงานพิเศษตามครั้งคราวตามที่ธนาคารผู้เป็นนายจ้างจะมีคำสั่ง โจทก์ต้องไปแข่งขันกีฬาที่จังหวัดระยองตามคำสั่งของธนาคารผู้เป็นนายจ้าง จะถือว่าการปฏิบัติงานพิเศษนี้สิ้นสุดในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2525 ซึ่งเป็นวันปิดการแข่งขันหาได้ไม่ เพราะช่วงการเดินทางกลับหน่วยงานประจำก็ยังเป็นการกลับจากการแข่งขันกีฬานั้นเอง ตราบใดที่โจทก์ยังกลับไม่ถึงที่พักประจำในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคม ก็ยังได้ชื่อว่าโจทก์ปฏิบัติงานพิเศษกลับจากการแข่งขันกีฬาเป็นการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง เมื่อเหตุที่เกิดขึ้นมิใช่ความผิดหรือความประมาทของโจทก์จึงไม่มีเหตุยกเว้นที่นายจ้างจะไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนเมื่อลูกจ้างประสบอันตราย

ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า อันตรายที่โจทก์ได้รับไม่เป็นการสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะ ไม่พิการ ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินทดแทนอีกด้วย เห็นว่าศาลแรงงานกลางยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ค่าจ้างของโจทก์อัตราสุดท้ายเดือนละเท่าใด เพราะโจทก์บรรยายฟ้องว่าเดือนละ 3,470 บาท จำเลยให้การว่าเดือนละ 3,420 บาท อันจะเป็นฐานคำนวณเงินทดแทนบาดแผลของโจทก์จัดอยู่ในประเภทใดจะเข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน แก้ไขฉบับที่ 9 ข้อ 54(1) หรือ (2) ซึ่งโจทก์เรียกร้องมาทั้งสองประเภท และศาลแรงงานกลางก็มิได้กำหนดแน่ชัดว่า ให้จ่ายจำนวนกี่ปีกี่เดือน อัตราร้อยละเท่าใด คำนวณได้จำนวนเงินเป็นตัวเลขเท่าใด จ่ายครั้งเดียวหรือจ่ายรายเดือน เพียงแต่พิพากษารวมไปว่าให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนเกี่ยวกับคำขอที่โจทก์ฟ้อง จะเป็นปัญหาขัดข้องในการบังคับคดีต่อไป เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางเฉพาะข้อที่มิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงดังที่ศาลฎีกาอ้างไว้ข้างต้น ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วพิพากษาใหม่ให้ชัดเจนตามรูปความ นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

Share