แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่าโจทก์ทั้งสองได้นำเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินพิพาทของโจทก์ซึ่งมีเพียง หนังสือรับรองการทำประโยชน์เพื่อขอออกโฉนดที่ดินจำเลยคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินขอให้เพิกถอนคำคัดค้านจำเลยให้การและ ฟ้องแย้งว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ทั้งสองออกทับที่ดินมีโฉนดของจำเลยขอให้ยกฟ้องและเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ทั้งสองดังนี้คดีจึงมีประเด็นพิพาทว่าที่ดินพิพาทเป็นของใครเป็น คดีมีทุนทรัพย์ เมื่อที่ดินพิพาทมีราคา150,000บาทจึงห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา248วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ ทั้ง สอง ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย เพิกถอน คำคัดค้านการ ขอ ออก โฉนด ที่ดิน ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ของ โจทก์ ต่อเจ้าพนักงาน ที่ดิน จังหวัด สมุทรสาคร หาก จำเลย ไม่ยอม เพิกถอนก็ ขอให้ ถือเอา คำพิพากษา ของ ศาล เป็น การแสดง เจตนา
จำเลย ให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส. 3) ออก ทับ ที่ดิน โฉนด ที่ 972 ของ จำเลย กับพวก จำเลย จึง มีสิทธิคัดค้าน การ รังวัด ของ โจทก์ ขอให้ ยกฟ้อง และ มี คำสั่ง ให้ เพิกถอนน.ส. 3 ของ โจทก์ ทั้ง สอง ออกจาก สารบบ ทะเบียน ที่ดิน
โจทก์ ให้การ แก้ฟ้อง แย้ง ว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของ โจทก์ ออก โดยชอบ ด้วย ประมวลกฎหมายที่ดิน ขอให้ ยกฟ้อง แย้ง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย เพิกถอน คำคัดค้าน การ ขอ ออก โฉนดที่ดิน ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ของ โจทก์ ต่อ เจ้าพนักงาน ที่ดินจังหวัด สมุทรสาคร หาก ไม่ยอม เพิกถอน ก็ ให้ ถือเอา คำพิพากษา เป็น การแสดง เจตนา แทน ยกฟ้อง แย้ง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คดี นี้ โจทก์ ทั้ง สอง ฟ้อง ว่า โจทก์ ทั้ง สองเป็น เจ้าของ ที่ดินพิพาท ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3)เล่ม ที่ 7 หน้า (124) 62 ตำบล บ้านเกาะ อำเภอ เมือง สมุทรสาคร จังหวัด สมุทรสาคร เนื้อที่ 1 ไร่ 32 ตารางวา โจทก์ ทั้ง สอง ได้ นำเจ้าหน้าที่ รังวัด ที่ดินพิพาท เพื่อ ขอ ออก โฉนด ที่ดิน จำเลย ได้ คัดค้านการ ขอ ออก โฉนด ที่ดิน ขอให้ เพิกถอน คำคัดค้าน การ ขอ ออก โฉนด ที่ดินจำเลย ให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ของ โจทก์ทั้ง สอง ออก ทับ ที่ดิน โฉนด ที่ 972 ตำบล บ้านเกาะ อำเภอ เมือง สมุทรสาคร จังหวัด สมุทรสาคร ของ จำเลย ขอให้ ยกฟ้อง และ ให้ เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ของ โจทก์ ทั้ง สอง คดี จึง มี ประเด็น ว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ของ โจทก์ ทั้ง สอง ออก ทับ โฉนด ที่ดินของ จำเลย หรือไม่ ซึ่ง เป็น กรณี พิพาท กัน ว่า ที่ดินพิพาท เป็น ของ ใครจึง เป็น คดีมีทุนทรัพย์ ตาม ราคา ที่ดินพิพาท ซึ่ง มี ราคา 150,000 บาทดังนั้น ราคา ทรัพย์สิน หรือ จำนวน ทุนทรัพย์ ที่พิพาท กัน ใน ชั้นฎีกาจึง ไม่เกิน สอง แสน บาท ห้าม มิให้ คู่ความ ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า จำเลย นำสืบ ไม่ได้ ว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของ โจทก์ ทั้ง สอง ออก ทับ โฉนด ที่ดิน ของ จำเลย จำเลย ฎีกา ว่าพยานหลักฐาน ของ จำเลย นำสืบ ฟังได้ ว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของ โจทก์ ทั้ง สอง ออก ทับ โฉนด ที่ดิน ของ จำเลย จึง เป็น การ โต้เถียงดุลพินิจ ใน การ รับฟัง พยานหลักฐาน ของ ศาลอุทธรณ์ เป็น ฎีกา ในข้อเท็จจริง ห้าม มิให้ จำเลย ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง ตาม บท กฎหมาย ดังกล่าวที่ ศาลชั้นต้น สั่ง รับ ฎีกา ของ จำเลย จึง เป็น การ ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับ วินิจฉัย ”
พิพากษายก ฎีกา จำเลย