คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2547

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บริษัท น. ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่ผู้เดียวจากบริษัท ร. ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิทุกอย่างทั่วโลกจากเจ้าของลิขสิทธิ์จึงมีสิทธิในภาพยนต์พิพาทแต่ผู้เดียวในประเทศไทย เมื่อจำเลยกระทำละเมิดโดยนำเอาแถบบันทึกภาพและเสียงภาพยนต์หรือวีดีโอเทปของภาพยนต์พิพาท ออกให้เช่าหรือเสนอให้เช่าแก่บุคคลทั่วไปจึงเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์ภาพยนต์พิพาทซึ่งบริษัท น. มีสิทธิใช้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริษัท น. จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อินดัสตรีส์ล อิงค์ จำกัด เป็นผู้มีลิขสิทธิ์โดยเป็นผู้สร้างสรรค์ภาพยนต์เรื่อง ทูดายฟอร์ได้มอบอำนาจให้บริษัท เอนเตอร์เทนเม้นส์ จำกัด เป็นผู้มีอำนาจเกี่ยวกับงานอันมีลิขสิทธิ์ดังกล่าวแต่ผู้เดียวในประเทศไทย เมื่อวันที่5 สิงหาคม 2539 เวลากลางวัน จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยละเมิดลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์ภาพยนต์เรื่อง ทูดายฟอร์ โดยจำเลยนำแถบบันทึกภาพและเสียงภาพยนต์หรือวีดีโอเทปเรื่อง ทูดายฟอร์ ซึ่งมีผู้กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ 2 ม้วน ออกให้เช่า เสนอให้เช่าแก่บุคคลทั่วไปเพื่อการค้าหากำไร โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าวีดีโอเทปดังกล่าวได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ และจำเลยซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ ใช้ชื่อสถานที่ประกอบกิจการว่า บุญทัศน์วีดีโอตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 173/13 ถนนศรีสุริยวงศ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี มีวีดีโอเทปเรื่อง ทูดายฟอร์ ที่ภาพและเสียงของเรื่องมิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจ วีดีโอเทปดังกล่าวไม่มีการแสดงตราหมายเลขรหัสที่เจ้าพนักงานผู้ตรวจได้ประทับลงบนฉลากแล้วติดไว้บนตลับวีดีโอเทปดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 4, 6, 31,61, 70, 75, 76 พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 10, 35 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบของกลางเฉพาะเอกสารแสดงการให้เช่า 2 แผ่น ส่วนวีดีโอเทปจำนวน 2 ม้วน ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์กับให้จ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537มาตรา 31 (ที่ถูก มาตรา 31(1)), 61, 70 วรรคสอง พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 10, 35 เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้าปรับ 50,000 บาท ฐานมีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ซึ่งมิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานปรับ 3,000 บาท รวมปรับ 53,000 บาท ริบการ์ดให้เช่าของกลาง ส่วนวีดีโอเทปของกลางให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ให้จ่ายค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่ง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 10, 35(1) ปรับ 3,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบการ์ดให้เช่าของกลาง ข้อหาอื่นและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้ว คดีนี้มีข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติในเบื้องต้นตามที่คู่ความไม่โต้แย้งกันคือจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ใช้ชื่อว่า “บุญทัศน์วีดีโอ” บริษัทโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อินดัสตรีส์ล อิงค์ จำกัด เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนต์เรื่อง ทูดายฟอร์ โดยบริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์ จำกัด เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่ผู้เดียวในประเทศไทย ตามวันเวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจตรวจยึดวีดีโอเทปของกลาง 2 ม้วน พร้อมการ์ดให้เช่า 2 แผ่น จากร้านบุญทัศน์วีดีโอ วีดีโอเทปดังกล่าวไม่มีเครื่องหมายการค้าของผู้ได้รับมอบลิขสิทธิ์ติดไว้ ไม่ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจ และไม่มีตราประทับของเจ้าพนักงานประทับ มีการแจ้งความร้องทุกข์แล้วคดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า บริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์จำกัด เป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ เห็นว่า ตามเอกสารหมาย ป.จ.3 (ศาลอาญากรุงเทพใต้) ระบุว่าบริษัทแรงค์ ฟิล์ม ดิสตริบิวเตอร์สจำกัด เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิทุกอย่างทั่วโลก ในภาพยนต์เรื่อง ทูดายฟอร์ ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา จากบริษัทโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อินดัสตรีส์ล อิงค์จำกัด และบริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์ จำกัด ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่ผู้เดียวจากบริษัทแรงค์ฟิล์ม ดิสตริบิวเตอร์ส จำกัด ในด้านโรงฉายขนาด 35 มม. กับสิทธิส่วนบุคคลที่จะฉายตามบ้านจากคาสเซ็ทและดิสก์ภายในประเทศไทยซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่31 ธันวาคม 2542 และนายกำพล รัตนจางวาง กรรมการ บริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์ จำกัด พยานโจทก์เบิกความยืนยันในส่วนนี้ว่า บริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์จำกัด ได้รับสิทธิให้ทำการฉายในโรงภาพยนต์ รวมทั้งทำเป็นวีดีโอออกขายหรือให้เช่าโดยจำเลยมิได้นำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่น บริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่ผู้เดียวจากบริษัทแรงค์ ฟิล์ม ดิสตริบิวเตอร์ส จำกัด จึงมีสิทธิในภาพยนต์เรื่องดังกล่าวแต่ผู้เดียวในประเทศไทย เมื่อจำเลยกระทำละเมิดโดยนำเอาแถบบันทึกภาพและเสียงภาพยนต์หรือวีดีโอเทปเรื่อง ทูดายฟอร์ ออกให้เช่าหรือเสนอให้เช่าแก่บุคคลทั่วไป จึงเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์ภาพยนต์ดังกล่าวซึ่งบริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์ จำกัด มีสิทธิใช้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริษัทนนทนันท์ เอนเตอร์เทนเม้นส์ จำกัด จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ได้ ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังขึ้น…

อนึ่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยในความผิดฐานมีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ ซึ่งมิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงาน และพิพากษาให้จ่ายค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่ง แต่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ไม่ได้ให้อำนาจศาลในการจ่ายค่าปรับแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ จึงไม่อาจจ่ายค่าปรับให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ได้ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ให้จ่ายเงินเฉพาะค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่งให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์”

Share