คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเรื่องอายุความเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในการชี้สองสถาน และจำเลยไม่ได้คัดค้าน จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความแล้วหรือไม่ จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีนี้จำเลยจะฎีกาว่าหนังสือมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้รับมอบอำนาจมิได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับมอบอำนาจหาได้ไม่เพราะไม่ใช่ประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายอภิรัตน์ กาญจโนมัยฟ้องคดีแทน จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายลดเช็คกับโจทก์ 2 ครั้งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2527 และวันที่ 12 กันยายน 2527 รวมเงินตามสัญญาขายลดเช็คทั้งสองครั้งเป็นเงิน 2,400,000 บาท มีจำเลยที่ 2 และที่ 3 ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เมื่อเช็คที่จำเลยที่ 1 ขายลดแก่โจทก์ถึงกำหนด ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน 3,081,999.05 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปีของต้นเงิน 2,400,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์จำเลยทั้งสามให้การว่าโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้นายอภิรัตน์ กาญจโนมัย ฟ้องคดีแทนนายอภิรัตน์ไม่มีอำนาจลงชื่อในฟ้องและแต่งตั้งทนายให้เรียงฟ้องฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มูลหนี้คดีนี้คือเอกสารเช็ค 3 ฉบับ ที่ขายลดแก่โจทก์ เมื่อวันที่ลงในเช็คดังกล่าวนับถึงวันฟ้องเกินกว่า 1 ปี คดีจึงขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน3,081,999.05 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปีของต้นเงิน 2,400,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกาว่า คดีขาดอายุความแล้วหรือไม่ และหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ สำหรับประเด็นแรกปรากฏว่า ในการชี้สองสถานศาลมิได้กำหนดเรื่องอายุความเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และไม่ปรากฏว่าจำเลยโต้แย้งคำสั่งศาลในการกำหนดประเด็นข้อพิพาทจึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัย ฎีกาของจำเลยทั้งสามในประเด็นนี้ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
ประเด็นต่อไปคือหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยทั้งสามให้การว่าโจทก์มิได้มอบอำนาจให้นายอภิรัตน์กาญจโนมัย ฟ้องคดีนี้ แต่ยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นฎีกาว่าหนังสือมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้รับมอบอำนาจมิได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับมอบอำนาจ เหตุที่จำเลยทั้งสามยกขึ้นฎีกาเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยทั้งสามให้การสู้คดีไว้ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้เช่นกัน ส่วนที่จำเลยทั้งสามฎีกาต่อไปว่านายอภิรัตน์ ลงชื่อในใบแต่งทนายเพื่อดำเนินคดีนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เมื่อในชั้นนี้คดีไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าการมอบอำนาจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงต้องฟังว่านายอภิรัตน์ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีนี้ การตั้งทนายจึงชอบด้วยกฎหมายฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยในผลที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา”
พิพากษายืน

Share