คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2669/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองไม่นำเงินมาวางต่อศาลตามกำหนดโดยอ้างว่ามารดาป่วยกะทันหันต้องเดินทางไปเยี่ยมที่ต่างจังหวัดนั้น มิใช่ความจำเป็นถึงขนาดจะนำเงินมาวางศาลไม่ได้เพราะการนำเงินมาวางศาลมิใช่กิจการที่จำเลยทั้งสองจะต้องทำเองโดยเฉพาะตัว ดังนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดชอบตาม ป.พ.พ.มาตรา 205 ศาลยกคำร้องของจำเลยทั้งสองได้โดยไม่ต้องไต่สวน.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรับผิดชดใช้เงินตามเช็คให้แก่โจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล ความว่า จำเลยทั้งสองยอมร่วมกันรับผิดชอบใช้เงินจำนวน 107,000 บาท ให้แก่โจทก์โดยตกลงผ่อนชำระให้เป็นรายเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ทุก ๆ วันสิ้นเดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2530 เป็นต้นไป และจะชำระให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม 2534 โดยจำเลยทั้งสองจะนำเงินมาวางที่ศาล หากจำเลยทั้งสองผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันทีพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ในระหว่างผิดนัด ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
โจทก์ยื่นคำขอให้ออกหมายบังคับคดี โดยอ้างว่าจำเลยทั้งสองผิดนัด ไม่นำเงินงวดที่ 3 มาชำระภายในกำหนดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี และโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยที่ 1 รวม 2 โฉนด
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาที่จะผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่เนื่องจากในวันที่ 30 มิถุนายน2530 นั้น มารดาจำเลยที่ 2 เกิดป่วยอย่างกะทันหันและรุนแรงมากจำเลยทั้งสองจำเป็นต้องเดินทางไปเยี่ยมที่ต่างจังหวัดและนำเข้ารับการรักษา จึงเดินทางกลับมาที่จังหวัดสุรินทร์ไม่ทันเวลาทำการของศาลชั้นต้น ขอให้ศาลไต่สวนหรือนัดพร้อมเพื่อพิจารณาคำร้องของจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดพร้อม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาว่า คดีมีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยทั้งสองที่อ้างว่าไม่มีเจตนาที่จะผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่ จำเลยทั้งสองอ้างว่า ในวันที่30 มิถุนายน 2530 ซึ่งเป็นวันถึงกำหนดที่จำเลยทั้งสองต้องนำเงินรายเดือนมาวางต่อศาลตามสัญญาประนีประนอมยอมความ มารดาจำเลยที่ 2 เกิดป่วยอย่างกะทันหันและรุนแรงมาก จำเลยทั้งสองจำเป็นต้องเดินทางไปเยี่ยมที่ต่างจังหวัดและนำเข้ารับการรักษา จึงเดินทางกลับมาที่จังหวัดสุรินทร์ไม่ทันเวลาทำการของศาลชั้นต้น เห็นว่า การนำเงินมาวางศาลมิใช่กิจการที่จำเลยทั้งสองจะต้องทำเองโดยเฉพาะตัวหากจำเลยทั้งสองมีความจำเป็นดังที่อ้างมาในคำร้อง ก็ย่อมมอบหมายให้บุคคลอื่นนำเงินมาวางต่อศาลชั้นต้นได้ ทั้งไม่ปรากฏตามคำร้องว่าจำเลยทั้งสองออกเดินทางไปเมื่อเวลาใด อันจะทำให้ไม่อาจนำเงินมาวางต่อศาลชั้นต้นได้ก่อน กรณีจึงถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดชอบซึ่งจะทำให้จำเลยทั้งสองยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 205 เมื่อจำเลยทั้งสองไม่อาจยกเหตุตามคำร้องเป็นข้อแก้ตัวได้แล้ว คดีจึงไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยทั้งสองต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและพิพากษาให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสองนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล…”
พิพากษายืน

Share