คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 58 ให้อำนาจศาลแรงงานที่จะทำคำสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาก่อนศาลแรงงานมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีแต่กรณีของโจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ภายหลังจากศาลแรงงานมีคำพิพากษาแล้ว จึงจะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับไม่ได้คำสั่งศาลแรงงานกลางที่ไม่รับคำร้องดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบ

ย่อยาว

มูลกรณีสืบเนื่องจากโจทก์ได้ยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยในฐานะคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ที่มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายเงินค่าเสียหายแก่นายโชติ บุญจริง ลูกจ้างจำนวน 60,000 บาท โดยอ้างว่าคำสั่งของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และพร้อมกับที่โจทก์ยื่นฟ้อง โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอวางเงินจำนวน 60,000 บาทต่อศาลโดยอ้างว่า ถ้าโจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยกล่าวคือ จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่นายโชติ บุญจริง ไปหากโจทก์ชนะคดีอาจไม่ได้รับเงินจำนวนนี้คืนจากนายโชติ บุญจริง โจทก์จะได้รับความเสียหาย ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รับเงินไว้

ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับฉบับลงวันที่ 27สิงหาคม 2523 ขอวางเงินจำนวน 60,000 บาทไว้ ณ ศาลแรงงานกลางตามเดิมก่อน จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา หากโจทก์แพ้คดีก็จะถอนเงินที่วางไว้จากศาลมอบให้แก่นายโชติต่อไป ศาลแรงงานกลางสั่งคำร้องฉบับนี้ว่า “ตามฟ้องเป็นเรื่องเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ไม่เป็นกรณีที่จะบังคับคดีกับโจทก์ จึงไม่รับคำร้อง”

โจทก์จึงอุทธรณ์คำสั่งของศาลแรงงานกลางข้างต้นต่อศาลฎีกาโดยขอให้ศาลฎีกาสั่งกลับให้ศาลแรงงานกลางรับคำร้องของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ตามคำร้องของโจทก์ที่ขอวางเงินจำนวน 60,000 บาทไว้ต่อศาล เพื่อป้องกันมิให้โจทก์เสียหายจนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาคดีนั้น มิใช่เรื่องขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง เพราะศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโดยไม่มีการบังคับคดีแก่โจทก์ หากเป็นเรื่องขอให้คุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ซึ่งศาลแรงงานกลางไม่อาจพิจารณาสั่งคำร้องของโจทก์เช่นนี้ได้ ที่โจทก์อ้างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 58 ศาลฎีกาเห็นว่าบทมาตราดังกล่าวบัญญัติให้ศาลแรงงานมีอำนาจทำคำสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาก่อนศาลแรงงานจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดี แต่กรณีของโจทก์นี้โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ภายหลังจากศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาแล้ว จะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับไม่ได้คำสั่งของศาลแรงงานกลางชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share