แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้การว่าสัญญาซื้อขายที่โจทก์นำมาฟ้องตกเป็นโมฆะโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ ฉะนั้นที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินให้จำเลยตามสัญญาดังกล่าวจึงขัดกับคำให้การของจำเลย และหากจำเลยชนะคดีก็ไม่อาจบังคับตามคำขอได้ ถือได้ว่าฟ้องแย้งดังกล่าวไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาซื้อขายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อต่อกัน โดยโจทก์เป็นผู้ซื้อจำเลยทั้งสองเป็นผู้ขาย ตามสัญญาซื้อขายเอกสารท้ายฟ้องถ้าจำเลยทั้งสองประพฤติผิดสัญญาจำเลยทั้งสองจะต้องชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ รวมตลอดถึงค่าเสียหายอันเกิดจากพฤติการณ์พิเศษแก่โจทก์และต้องเสียค่าปรับให้แก่โจทก์ 500,000 บาทอีกส่วนหนึ่งด้วย ต่อมาปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้ประพฤติผิดสัญญาและกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงได้บอกเลิกสัญญาแล้วขอให้บังคับจำเลยทั้งสองหยุดการผลิต ประกอบการค้า จัดจำหน่าย หรือใช้ยี่ห้อเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และใช้ค่าเสียหายจากการที่จำเลยทั้งสองผลิตออกจำหน่ายแก่ลูกค้าทั่วไปเองทำให้โจทก์ขาดรายได้ 220,000 บาทค่าเสียหายจากการที่จำเลยทั้งสองใช้ยี่ห้อเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยโจทก์ไม่ยินยอม ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงขาดความเชื่อถือจากลูกค้ามีผลให้ยอดจำหน่ายลดลงเป็นเงิน300,000 บาท และเบี้ยปรับจากการผิดสัญญา 500,000 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,020,000 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ15 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า สัญญาซื้อขายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นการพ้นวิสัยและเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนจึงเป็นโมฆะ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองได้ จำเลยทั้งสองได้ขายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ดังกล่าวให้แก่โจทก์เป็นเงิน 328,192 บาทแต่โจทก์ไม่ชำระเงินดังกล่าวแก่จำเลยทั้งสองตามสัญญา ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์ชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่จำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การจำเลยทั้งสอง แต่ไม่รับฟ้องแย้งเนื่องจากคำให้การในตอนต้นระบุว่า ตามสัญญาตามฟ้องระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสองเป็นโมฆะ จำเลยทั้งสองย่อมไม่อาจร้องขอให้บังคับโจทก์ให้ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวได้ คำฟ้องแย้งจำเลยทั้งสองขอให้บังคับโจทก์ชำระราคาสินค้าที่ซื้อขายตามสัญญาดังกล่าวจึงขัดกับคำให้การ คืนค่าขึ้นศาลสำหรับฟ้องแย้ง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองว่า ฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองเกี่ยวกับฟ้องเดิมอันจะรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ เห็นว่า จำเลยทั้งสองให้การว่าสัญญาซื้อขายที่โจทก์นำมาฟ้องมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นการพ้นวิสัย และเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ ฉะนั้นที่จำเลยทั้งสองฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินให้จำเลยทั้งสองตามสัญญาดังกล่าวจึงขัดกับคำให้การของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองชนะคดีก็ไม่อาจบังคับตามคำขอได้ ถือได้ว่าฟ้องแย้งดังกล่าวไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม
พิพากษายืน