คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2631/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคท้าย ให้สิทธิคู่ความที่จะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งของศาลที่ไม่รับหรือคืนคำคู่ความ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 227, 228 และ 247 นั้นได้
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์รับอุทธรณ์คืนไปทำมาภายใหม่ภายในกำหนด 7 วัน แต่โจทก์เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ไม่มีข้ออันควรตำหนิที่จะต้องแก้ไข หรือทำมาใหม่ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นโจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ตามนัยแห่งบทบัญญัติดังกล่าว โดยไม่จำต้องรอให้ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่งก่อน

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งว่า อุทธรณ์โจทก์ฟุ่มเฟือย ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ข้อความหลายตอนเป็นข้อความที่ไม่สมควรนำมากล่าว ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ศาลวินิจฉัยไว้ ไม่มีกล่าวไว้ และไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้น ให้คืนอุทธรณ์โจทก์ไปและให้ทำมาใหม่ภายใน ๗ วัน
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์ไม่บกพร่องตามความเห็นของศาลชั้นต้น ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งกลับหรือสั่งยกคำสั่งศาลชั้นต้นหรือรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษากลับต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘ วรรคท้าย ให้สิทธิคู่ความที่จะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งของศาลที่ไม่รับหรือคืนคำคู่ความ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๗, ๒๒๘ และ ๒๔๗ นั้นได้ เกี่ยวกับกรณีนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์รับอุทธรณ์คืนไปทำมาใหม่ภายในกำหนด ๗ วัน แต่โจทก์เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ไม่มีข้ออันควรตำหนิที่จะต้องแก้ไข หรือทำมาใหม่ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น โจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ตามนัยของบทบัญญัติดังกล่าว โดยไม่จำต้องรอให้ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่งก่อน ฉะนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์โดยไม่วินิจฉัยจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘ วรรคท้าย ประกอบด้วย มาตรา ๒๒๗
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์คำสั่งไว้พิจารณาพิพากษาในประเด็นที่ได้อุทธรณ์ต่อไป

Share