แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ จำเลยว่านาพิพาทเป็นของจำเลย โจทก์อ้างบันทึกที่จำเลยรับว่าที่เป็นของโจทก์ ดังนี้ศาลรับฟังบันทึกนั้นประกอบการพิจารณาว่าที่เป็นของโจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า นาพิพาทเป็นของจำเลย ๆ ได้รับมรดกจากนางเอียดมารดา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ประเด็นมีว่า โจทก์กู้เงินจำเลยและมอบที่นาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยจริงหรือไม่ โจทก์คงมีแต่ตัวเองเป็นพยานและบันทึกยอมความชั้นอำเภอ บันทึกยอมความเป็นคนละเรื่องกับประเด็นฟ้องของโจทก์ ในบันทึกมีใจความว่าที่พิพาทเป็นส่วนได้ของโจทก์ จำเลยไม่เกี่ยวข้องเท่านั้น จำเลยนำสืบได้ว่า ที่พิพาทเดิมเป็นของนางเอียดมารดา ๆ ตายประมาณ 20 ปีจำเลยปกครองทำนาตลอดมา เมื่อทางพิจารณา โจทก์นำสืบไม่ได้ความตามฟ้อง จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ประเด็นอยู่ที่ว่านาพิพาทเป็นของใครฝ่ายโจทก์ที่กล่าวว่าเป็นนาของโจทก์มีตัวโจทก์ เอกสารที่โจทก์จำเลยยอมความกันต่ออำเภอและจำเลยก็ให้การรับว่าอำเภอได้เปรียบเทียบให้ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยก็ยอมและได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้ด้วยที่พิพาทจึงเป็นของโจทก์ พิพากษากลับให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น