คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วย ศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องแย้งของจำเลยบรรยายเพียงว่าผู้ที่สั่งจองห้องพักของจำเลยไว้ได้ยกเลิกการจองห้องพักในภายหลังเพราะไม่พอใจการกระทำของโจทก์ค่าห้องพักที่ถูกยกเลิกการสั่งจองคิดเป็นเงินจำนวน10,936,655.50บาทโดยไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้ว่าผู้จองห้องพักและได้ยกเลิกการสั่งจองในภายหลังนั้นได้จองห้องพักเมื่อใดจองห้องพักจำนวนมากน้อยและมีกำหนดระยะเวลาที่จองนานเท่าใดกับได้ยกเลิกการสั่งจองห้องพักเมื่อใดเป็นฟ้องแย้งที่ไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นเป็นฟ้องแย้งที่เคลือบคลุม ตามสัญญาจ้างกำหนดว่าจำเลยจ้างโจทก์มีกำหนดระยะเวลา3ปีโดยจำเลยหรือโจทก์ต่างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลา3ปีดังกล่าวได้การที่จำเลยบอกเลิกจ้างโจทก์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา3ปีเป็นการใช้สิทธิเลิกสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม จำเลยจะมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเงินจำนวนใดๆให้โจทก์ดังคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยทั้งสองเพียงใดหรือไม่จะต้องพิจารณาถึงเหตุของการเลิกจ้างในขณะที่เลิกจ้างเป็นสำคัญซึ่งตามหนังสือเลิกจ้างโจทก์ของจำเลยไม่ได้ระบุเหตุของการเลิกจ้างว่าเพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ3ถึงข้อ6การที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ3ถึงข้อ6จึงเป็นการยกข้อต่อสู้นอกเหนือหนังสือเลิกจ้างซึ่งจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ก่อนสัญญาสิ้นสุด เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาทุจริตต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน โจทก์ปฏิบัติงานก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่สนใจแขกพูดจาหยาบคาย เมาสุราเอะอะ ทำให้แขกไม่ยอมมาพัก ผู้ที่สั่งจองห้องพักของจำเลยที่ 1 ไว้ ได้ยกเลิกการจองห้องพักในภายหลังเพราะไม่พอใจการกระทำของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องโจทก์และบังคับโจทก์ชำระค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 1
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่เคยกระทำดังที่จำเลยทั้งสองอ้าง ฟ้องแย้งจำเลยที่ 1 เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 1 จ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 385,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้องคดีเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินต้นเสร็จสิ้น ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 รวมทั้งยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกเสีย
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ตามสัญญาจ้างท้ายฟ้องเอกสารหมายเลข 2 กำหนดว่าจำเลยที่ 1 จ้างโจทก์มีกำหนดระยะเวลา3 ปี โดยจำเลยที่ 1 หรือโจทก์ต่างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลา 3 ปีดังกล่าวได้ จึงเห็นว่าการที่จำเลยที่ 1 บอกเลิกจ้างโจทก์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี เป็นการใช้สิทธิเลิกสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม
ส่วนที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ในประการแรกว่า ศาลแรงงานกลางไม่วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ที่ว่า โจทก์กระทำประการอื่นอันไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตหรือไม่ ข้อ 4 ที่ว่า โจทก์จงใจทำให้จำเลยที่ 1ได้รับความเสียหายหรือไม่ ข้อ 5 ที่ว่า โจทก์ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างหรือไม่ และข้อ 6 ที่ว่าโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบและคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยหรือไม่เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า จำเลยที่ 1 จะมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเงินจำนวนใด ๆ ให้โจทก์ดังคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยทั้งสองเพียงใดหรือไม่ จะต้องพิจารณาถึงเหตุของการเลิกจ้างในขณะที่เลิกจ้างเป็นสำคัญ ซึ่งตามสัญญาเลิกจ้างโจทก์ของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ระบุเหตุของการเลิกจ้างว่าเพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6 การที่จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 เลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6 จึงเป็นการยกข้อต่อสู้นอกเหนือหนังสือเลิกจ้างซึ่งจำเลยทั้งสองจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ที่ศาลแรงงานกลางไม่วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6ดังกล่าว ศาลฎีกาจึงเห็นพ้องด้วย ส่วนสำหรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองในประการสุดท้ายที่ว่าฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 ไม่เคลือบคลุมนั้นเห็นว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้ฟ้องแย้ง ไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ในปัญหานี้ คดีคงมีปัญหาที่จะวินิจฉัยในปัญหาดังกล่าวเฉพาะตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1ซึ่งเห็นว่าฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 บรรยายเพียงว่า ผู้ที่สั่งจองห้องพักของจำเลยที่ 1 ไว้ ได้ยกเลิกการจองห้องพักในภายหลังเพราะไม่พอใจการกระทำของโจทก์ ค่าห้องพักที่ถูกยกเลิกการสั่งจองคิดเป็นเงินจำนวน 10,936,655.50 บาท โดยไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้ว่า ผู้จองห้องพักและได้ยกเลิกการสั่งจ่ายในภายหลังนั้น ได้จองห้องพักเมื่อใด จองห้องพักจำนวนมากน้อยและมีกำหนดระยะเวลาที่จองนานเท่าใด กับได้ยกเลิกการสั่งจองห้องพักเมื่อใด เป็นฟ้องแย้งที่ไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น จึงเป็นฟ้องแย้งที่เคลือบคลุม
พิพากษายืน

Share