คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2465

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

คดีที่ศาลสูงตัดสินกลับศาลล่างในข้อกฎหมายหรือกระบวนวิธีพิจารณา ยังไม่ได้ตัดสินถึงประเด็นข้อพิพาทให้เด็ดขาดนั้น นำมาว่ากล่าวกันให้เด็ดขาดต่อไปอีกได้
นายประกันไล่เบี้ยจากผู้ต้องประกันในคดีอาญาในจำนวนที่ต้องเสียไปตามสัญญาประกันนั้นได้ ตามลักษณะตระลาการบทที่ ๘๗ (แลคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๒/๑๒๗)
เดิมโจทย์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย ศาลต่างประเทศแลศาลอุทธรณ์กรุงเทพฯ พิพากษาให้โจทย์ชะนะคดี แต่ศาลฎีกาตัดสินกลับศาลอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย (๒๓๕/๒๔๖๓) โจทย์จึงยื่นฟ้องเรียกณี่สินรายนี้เป็นคดีธรรมดา โดยอาศรัยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งฟังข้อเท็จจริงในคดีนั้นว่า จำเลยเป็นณี่โจทย์ในจำนวนเงินเหล่านี้ ศาลฎีกาถือว่าจำเลยฟ้องผิดฐาน จึงตัดสินยกฟ้องโจทย์ (๘๖/๒๔๖๔) โจทย์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกณี่สินโดยนำสืบพยานเอกสารแลพยานบุคคลใหม่ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลล่างว่า คดีนี้ยังไม่เป็นคดีที่มีคำพิพากษาเด็ดขาด เพราะในคดี ๒ เรื่องก่อน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ถูกพิพากษากลับฉะเพาะแต่ข้อกฎหมายเท่านั้นปัญหาเรื่องณี่สินที่โจทย์ฟ้องคราวนี้ว่าจำเลยจะได้เป็นณี่โจทย์จริงฤาไม่นั้น กรรมการศาลฎีกายังไม่ได้วินิจฉัย

Share