แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ซื้อขายโคที่อายุยังไม่ถึงทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ซึ่งมีข้อสัญญาว่าจะไปจดทะเบียนโอน เป็นสัญญาจะซื้อขาย กรรมสิทธิ์ยังไม่โอน แต่ได้มอบโคให้ผู้ซื้อไปแล้ว โคถูกลักไปไม่ปรากฏว่าโทษผู้ซื้อได้ ผู้ขายเรียกราคาโคไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2517 จำเลยขอซื้อโคผู้ 2 ตัวของโจทก์ในราคา 3,100 บาท ตกลงกันว่าจะไปโอนทะเบียนตั๋วพิมพ์รูปพรรณในวันหลังพร้อมกับชำระราคาในวันโอน โจทก์ตกลงขายจึงได้มอบโคผู้ 2 ตัวให้จำเลยรับไปในวันตกลงนั้น ต่อมาเดือนธันวาคม 2517 โจทก์แจ้งให้จำเลยนำโคไปทำโอนทะเบียนตั๋วพิมพ์รูปพรรณต่อเจ้าพนักงานทะเบียนสัตว์พาหนะ จำเลยกลับแจ้งว่าโคที่รับมอบไปถูกคนร้ายลักไปแล้ว โจทก์ขอให้จำเลยชำระราคา จำเลยปฏิเสธจึงขอให้บังคับจำเลยใช้เงินค่าโค 3,100 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าไม่เคยตกลงซื้อโคกับโจทก์ โค 2 ตัวของโจทก์ โจทก์นำมาจ้างจำเลยเลี้ยง จำเลยไม่มีเวลาว่างจึงแจ้งให้โจทก์รับคืนไป โจทก์สั่งให้จำเลยนำไปมอบแก่นายยา จำเลยนำไปมอบแก่นายยาตามคำสั่งของโจทก์แล้ว หากสูญหายไปจริงก็ไม่ใช่ความผิดของจำเลย จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ทั้งสองฝ่ายต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม แต่การคืนโคของจำเลยกลายเป็นพ้นวิสัย เพราะถูกคนร้ายลักไป ไม่ใช่ความผิดของจำเลย จำเลยไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 3,100 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า โจทก์ตกลงขายโคผู้มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้ว 2 ตัวให้แก่จำเลย ราคา 3,100 บาทด้วยวาจาได้มอบโคทั้งคู่แก่จำเลยไปแล้ว จะกำหนดวันไปโอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณพร้อมชำระราคาในวันหลัง จำเลยรับโคจากโจทก์นำไปจ้างบุคคลอื่นเลี้ยง ต่อมาถูกคนร้ายลักไป สัญญารายพิพาทมิใช่สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแต่เป็นเพียงสัญญาจะซื้อขาย แม้จะกระทำกันด้วยวาจา แต่ก็ได้มีการชำระหนี้โดยโจทก์ผู้ขายได้มอบโคตามสัญญาให้แก่จำเลยผู้ซื้อรับไปแล้ว จึงเป็นสัญญาจะซื้อขายที่ฟ้องร้องให้บังคับกันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคสอง เมื่อสัญญารายพิพาทเป็นสัญญาจะซื้อขาย กรรมสิทธิ์ในโคจึงยังเป็นของโจทก์ผู้จะขายอยู่ ที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรับผิดชำระราคาเพราะเหตุโคถูกคนร้ายลักไปนั้น โจทก์มิได้กล่าวอ้างและนำสืบให้เห็นได้ว่าการที่โคถูกลักไปเป็นเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษจำเลยได้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระราคาโคแก่โจทก์
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น