คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ทำร้ายร่างกายขอให้ลงโทษ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยนี้มีผิดฐานชิงทรัพย์ลงโทษได้
ไม่เสนอ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าสมคบกันปล้นทรัพย์นายวาศและทำร้ายนายวาศมีบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๔-๒๕+ และพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญา ๒๔๗๗ ฉะบับที่ ๔ ม.๗
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยทั้ง ๓ คนได้ทำร้ายนายวาศ มีบาดเจ็บสาหัส และนายอ๊อดจำเลยได้กระชากสายสร้อยคอนายวาศพาหนีไป พิพากษาว่านายอ๊อดจำเลยมีผิดฐานชิงทรัพย์ตามมาตรา ๓๐๐ จำคุก ๗ ปี จำเลยนอกนั้นมีผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.๒๕๖ จำคุกคนละ ๒ ปี
ศาลฎีกาตัดสินว่าโจทก์ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายสาหัสขอให้ลงโทษฐานปล้นกับทำร้ายร่างกายสาหัสด้วย ถึงแม้โจทก์ไม่ได้อ้างฐานชิงทรัพย์ แต่โจทก์อ้างว่าปล้นทรัพย์โทษหนักกว่าอยู่แล้วและเป็นความผิดประเภทเดียวกันก็ลงโทษจำเลยได้ ส่วนข้อเท็จจริงเห็นว่าจำเลยได้ทำผิดจริงดังศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย พิพากษายืนตาม

Share