แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดในฐานะหนี้ร่วม ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 เพราะโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ตามที่จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดีถึงที่สุด คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลยที่ 2 เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดี ยื่นคำร้องขอกันส่วนอ้างว่าเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะสั่งงดไต่สวนคำร้องและยกคำร้องของผู้ร้อง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงิน ๒๓๕,๔๗๓ บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม แต่ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๒ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ขอบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้านและรถยนต์ของจำเลยที่ ๑
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ ๑ ผู้ร้องจึงเป็นเจ้าของบ้านและรถยนต์ที่ยึดไว้กึ่งหนึ่ง ขอให้กันเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องกึ่งหนึ่ง
โจทก์คัดค้านว่า หนี้ที่จำเลยที่ ๑ จะต้องชำระตามคำพิพากษาเป็นหนี้ร่วม ผู้ร้องต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นงดไต่สวนคำร้องแล้ววินิจฉัยว่า การที่ผู้ร้องมาขอกันส่วนที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ถูกยึดไว้ดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอกันส่วนให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป แล้วสั่งใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นจำเลยที่ ๒ ได้ให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ไว้ว่า ผู้ร้องไม่เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ ๑และคำพิพากษาศาลชั้นต้นถึงที่สุดแล้ว คำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ ๒ ในคดีนี้ด้วย โจทก์นำสืบรับฟังได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นด้วยในการที่จำเลยที่ ๑ กู้ยืมเงินจากโจทก์หลายครั้ง เพื่อนำมาใช้จ่ายในการทำไร่อ้อย ซึ่งจำเลยที่ ๑ กับผู้ร้องได้ร่วมกันทำและไม่ปรากฏว่าผู้ร้องประกอบอาชีพอย่างอื่นหรือมีรายได้พอที่จะซื้อบ้านและรถยนต์ที่ถูกยึดมาได้ จึงเชื่อได้ว่าเงินที่นำมาใช้จ่ายในการปลูกสร้างบ้านและซื้อรถยนต์ที่ถูกโจทก์บังคับคดีนั้นส่วนหนึ่งเป็นเงินที่จำเลยที่ ๑ กู้ยืมไปจากโจทก์หลายครั้งนั่นเอง แต่โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ คือผู้ร้องเป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ ๑ จึงยกฟ้องจำเลยที่ ๒ในชั้นร้องขอกันส่วน ผู้ร้องกลับอ้างว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ ๑ โดยมีสำเนาใบสำคัญการสมรสมาแสดง คำให้การของผู้ร้องในฐานะจำเลยที่ ๒ จึงขัดกันกับคำร้องขอกันส่วน ประกอบข้อเท็จจริงที่กล่าวมาที่ศาลชั้นต้นให้งดไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งให้ยกคำร้องนั้นชอบแล้ว
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้องตามคำสั่งศาลชั้นต้น.