คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อองค์การคลังสินค้าจำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานก็ไม่ได้แสดงความประสงค์ว่าจะจ้างชั่วคราวหรือจ้างประจำ และไม่มีกำหนดเวลาจ้างแน่นอน ถ้ารัฐบาลไม่ยกเลิกข้าวโอชาโจทก์ก็ยังคงเป็นลูกจ้างอยู่ตลอดไป ลักษณะของการจ้างจึงเป็นการจ้างกันเป็นประจำไม่ใช่ตกลงจ้างไว้ทำงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราว เป็นการจรหรือตามฤดูกาล โจทก์จึงเป็นลูกจ้างประจำของจำเลย การที่โจทก์ได้รับการผ่อนผันเกี่ยวกับการลา และได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน หาทำให้ลักษณะการจ้างเปลี่ยนแปลงไปไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าและไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าโจทก์เป็นลูกจ้างชั่วคราวรายวัน วันใดไม่มาทำงานก็ไม่ได้ค่าจ้าง โจทก์มิได้ทำงานติดต่อกันเกิน 120 วัน จึงไม่มีสิทธิเช่นลูกจ้างประจำ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า คลังสินค้ากลางของจำเลยมีหน้าที่ผสมข้าวโอชาขายแก่ประชาชนมีลูกจ้างรายวัน 19 คน ทำหน้าที่ทำความสะอาดสถานที่ เย็บกระสอบ จัดเรียงกระสอบฯลฯ ต่อมารัฐบาลยกเลิกข้าวโอชา งานจึงมีน้อย จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองและลูกจ้างอีก 5 คน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อจำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานก็ไม่ได้แสดงความประสงค์ว่าจะจ้างชั่วคราวหรือจ้างประจำ และไม่มีกำหนดเวลาจ้างแน่นอน ถ้ารัฐบาลไม่ยกเลิกข้าวโอชาโจทก์ทั้งสองก็ยังคงเป็นลูกจ้างของจำเลยตลอดไป เหตุเลิกจ้างจึงมาจากนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ซึ่งนับว่าเป็นเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายของจำเลย ลักษณะของการจ้างจึงเป็นการจ้างกันเป็นประจำมิใช่จ้างกันเพื่อให้ทำงานชิ้นหนึ่งชิ้นใดโดยเฉพาะเมื่อเสร็จงานแล้วก็จะเลิกจ้าง ซึ่งเป็นการจ้างชั่วคราว การที่โจทก์ทั้งสองและลูกจ้างรายวันอื่น ๆ ได้รับการผ่อนผันเกี่ยวกับการลาและได้รับค่าจ้างเป็นรายวันไม่ทำให้ลักษณะการจ้างเปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้ ศาลฎีกาจึงเห็นว่า จำเลยตกลงจ้างโจทก์ทั้งสองไว้เป็นการประจำ ไม่ใช่ตกลงจ้างไว้ทำงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราว เป็นการจรหรือเป็นตามฤดูกาล โจทก์ทั้งสองจึงเป็นลูกจ้างประจำของจำเลย

พิพากษายืน

Share