คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2590/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษต่อให้ดังโจทก์ขอ เพราะโจทก์มิได้แจ้งว่าคดีที่ขอให้นับโทษต่อศาลได้ลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่โจทก์แถลงมาในคำแก้ฎีกาว่า คดีที่ขอให้นับโทษต่อศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกศาลได้เรียกสำนวนคดีดังกล่าวมาตรวจดู ปรากฏว่าเป็นความจริงตามที่โจทก์แถลง การที่จะให้นับโทษจำคุกจำเลยตั้งแต่เมื่อใดนั้น เป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ศาลฎีกานับโทษต่อให้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2510 มาตรา 3 ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2517 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี ฐานฆ่าผู้อื่นจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวม 2 กระทง 26 ปี ไม่นับโทษต่อให้ดังโจทก์ขอ เพราะโจทก์มิได้แจ้งว่าคดีที่ขอให้นับโทษต่อนั้น ศาลลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “อนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อดังโจทก์ขอ เพราะโจทก์มิได้แจ้งว่าคดีที่ขอให้นับโทษต่อ ศาลได้ลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่นั้น โจทก์แถลงมาในคำแก้ฎีกาว่า คดีอาญาหมายเลขดำที่ ท.318/2523 ที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดศรีสะเกษ) ได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 9 ปี ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ท.316/2523 ศาลฎีกาได้เรียกสำนวนคดีอาญาดังกล่าวมาตรวจดู ปรากฏว่าเป็นความจริงตามที่โจทก์แถลง การที่จะให้นับโทษจำคุกจำเลยตั้งแต่เมื่อไรนั้น เป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22

พิพากษายืน และให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาของศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดศรีสะเกษ) หมายเลขดำที่ ท.318/2523 หมายเลขแดงที่ ท.316/2523”

Share