คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2589/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 649 เป็นกรณีฟ้องให้รับผิดเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูป เช่นค่าเสียหายเกี่ยวกับความชำรุดหรือเสื่อมราคาเนื่องจากการใช้สอยทรัพย์ที่ยืม ในกรณีฟ้องเรียกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยืมไม่มีบทกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีอายุความ 10 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมสร้อยคอทองคำไปจากโจทก์ จำเลยรับว่าจะนำมาคืนในวันรุ่งขึ้น ถึงกำหนดจำเลยไม่ได้นำมาคืน แล้วไม่นำมาคืน ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า ไม่เคยยืมสร้อยคอทองคำจากโจทก์ โจทก์ฟ้องคดีนี้เกิน ๖ เดือนนับแต่วันสิ้นสัญญา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนสร้อยคอทองคำให้โจทก์ ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยยืมสร้อยคอทองคำของโจทก์ไปแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยให้การว่า โจทก์ฟ้อคดีนี้เมื่อพ้นเวลา ๖ เดือนนับแต่วันสิ้นสัญญาคือวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ ข้อต่อสู้ของจำเลยเป็นการยกเอาอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๔๙ ขึ้นมาอ้าง ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้างนั้นเป็นกรณีฟ้องให้รับผิดเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูป เช่นเรียกค่าเสียหายเกี่ยวกับความชำรุดหรือเสื่อมราคาเนื่องจากการใช้สอยทรัพย์ที่ยืม มิใช่กรณีฟ้องเรียกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยืมเหมือนอย่างคดีนี้ ซึ่งไม่มีบทกฎหมายบัญญัติไว้ จึงต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๔ คือมีอายุความ ๑๐ ปี จำเลยรับว่าจะคืนทรัพย์ให้โจทก์ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๔ กันยายน๒๕๒๔ คดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share