คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2588/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บันทึกคำฟ้องประกอบบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยรับเอาถ่านไม้ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ดังกล่าว โดยมิได้ระบุว่าผู้ที่ได้ของกลางเป็นผู้เก็บหาของป่าหวงห้าม หรือเป็นผู้ทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29 วรรคแรก ฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29, 70 ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484มาตรา 29 วรรคแรก ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494มาตรา 11 บัญญัติว่า “ผู้ใดเก็บหาของป่าหวงห้าม หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องเสียค่าภาคหลวงกับทั้งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงหรือในการอนุญาต” และมาตรา 70 บัญญัติว่า “ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มา โดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น” ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29, 70 ดังโจทก์ฟ้อง ก็ต่อเมื่อจำเลยรับไว้หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ของกลางโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าหวงห้ามที่มีผู้เก็บหามาจากในป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง แต่ตามบันทึกคำฟ้องประกอบบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงเพียงว่า จำเลยรับเอาถ่านไม้ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้จำนวนดังกล่าว โดยโจทก์มิได้ระบุว่าผู้ที่ได้ถ่านไม้ของกลางมา เป็นผู้เก็บหาของป่าหวงห้าม หรือเป็นผู้ทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 วรรคแรก จำเลยผู้รับไว้หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ของกลางจึงไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการ เพราะหากผู้ที่ได้ถ่านไม้มาเป็นผู้ค้าหรือมีไว้ในครอบครองและบริเวณถ่านไม้ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร ผู้ที่รับไว้หรือช่วยเอาไปเสียให้พ้นก็ไม่มีความผิด ฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษ

พิพากษายืน

Share