แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินสามยทรัพย์ได้ใช้ทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยมากว่า 10 ปี ทางพิพาทดังกล่าวจึงตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ต่อมาจำเลยขอให้โจทก์ย้ายทางภารจำยอมมายังส่วนอื่นของที่ดินจำเลยเพื่อประโยชน์ของจำเลยทางเส้นใหม่นี้จึงตกเป็นทางภารจำยอมแทนทางเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1392
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 283 จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 786 ชาวบ้านในหมู่บ้านและโจทก์ได้เดินทางเข้าออกไปทำนาและออกมาสู่ตัวจังหวัดพิษณุโลกโดยผ่านเข้ามาในที่ดินของจำเลยด้านทิศตะวันออก สู่ทางเข้าหมู่บ้านด้านทิศเหนือของที่ดินจำเลยเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว โดยจำเลยไม่ได้โต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใดจึงได้ภารจำยอมจากที่ดินจำเลยโดยอายุความ ต่อมา พ.ศ. 2524จำเลยขอเลื่อนเส้นทางดังกล่าวจากเดิมมาทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 1 เส้น ตามเส้นสีแดงแผนที่ท้ายฟ้องทางเส้นนี้จึงเป็นเส้นทางภารจำยอมเส้นใหม่ที่จำเลยแลกเปลี่ยนกับเส้นทางเดิม โจทก์กับชาวบ้านได้เดินเข้าออกมาตั้งแต่นั้นโดยจำเลยไม่คัดค้านต่อมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2530 จำเลยได้ปิดกั้นเส้นทางภารจำยอมสายใหม่เป็นเหตุให้โจทก์และชาวบ้านไม่สามารถเดินทางออกมาสู่ทางสาธารณะได้ขอให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามเส้นสีแดงท้ายฟ้อง โดยทำให้อยู่ในสภาพตามเดิมถ้าไม่สามารถเปิดทางภารจำยอมตามเส้นสีแดงได้ก็ให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามเส้นสีน้ำเงิน โดยทำให้เป็นทางสูง 1 เมตรกว้าง 6 ศอก ยาวตลอดความยาวของที่ดินโฉนดเลขที่ 786 ตำบลวัดโบสถ์อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ของจำเลยโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การว่า ไม่มีทางภารจำยอมตามที่โจทก์กล่าวอ้างในที่ดินจำเลยและใน พ.ศ. 2524 จำเลยไม่เคยตกลงกับโจทก์เปลี่ยนเส้นทางเดินตามฟ้องแต่อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามแผนที่ท้ายฟ้องเส้นสีน้ำเงินในที่ดินโฉนดเลขที่ 786 เล่ม 8 หน้า 86 ตำบลวัดโบสถ์อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก มีขนาดกว้าง 6 ศอก ยาวประมาณ2 เส้น โดยค่าใช้จ่ายของจำเลย คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามแผนที่ท้ายฟ้องเส้นสีแดง ซึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 786ตำบลวัดโบสถ์ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้กว้าง 6 ศอกยาวประมาณ 2 เส้น โดยให้จำเลยรื้อถอนสิ่งต่าง ๆ และปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิม นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยขอให้ย้ายทางพิพาทจากเส้นสีน้ำเงินมายังเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องจริงเมื่อโจทก์ใช้ทางพิพาทตามเส้นสีน้ำเงินกว่า 10 ปีทางพิพาทดังกล่าวจึงตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ต่อมาเมื่อจำเลยขอให้โจทก์ย้ายทางภารจำยอมมายังเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเพื่อประโยชน์ของจำเลยเจ้าของภารยทรัพย์ทางตามเส้นสีแดงจึงตกเป็นทางภารจำยอมแทนทางเดิม ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1392 ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน