แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยถึงชีวิตเป็นสัญญาประกันชีวิตอย่างหนึ่งเพราะอาศัยความมรณะของบุคคลเป็นเงื่อนไขแห่งการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 889 ดังนั้นการที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจ่ายเงินให้แก่บุคคลซึ่งมีสิทธิตามสัญญานี้ไปจึงไม่อาจเข้ารับช่วงสิทธิบุคคลดังกล่าวฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากผู้กระทำละเมิดได้
ย่อยาว
โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการกระทำละเมิดขับรถยนต์ชนรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้ โดยโจทก์เป็นผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยในจำนวนเงินที่จ่ายเป็นค่าซ่อมรถยนต์ 120,000 บาท กับค่าชดเชยการเสียชีวิตของผู้ขับขี่ 10,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การทำนองเดียวกันว่าไม่รับรองการเป็นนิติบุคคลของโจทก์ และปฏิเสธหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 แต่เป็นความผิดของรถยนต์อีกคันหนึ่งที่เลี้ย กะทันหันเป็นเหตุให้รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับตามมาแฉลบออกไปทางขวามือ ลักษณะขวางปิดทางเดินรถยนต์ที่สวนมา พอดีรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้ขับสวนทางมาไม่อาจหลบหลีกได้ทันจึงเกิดชนกันขึ้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดด้วย หากความเสียหายมีจริงโจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย เพราะโจทก์ได้ใช้ค่าเสียหายด้วยการสมยอมกับผู้เอาประกันภัย ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องมาเกินไป ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ซึ่งรับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเกี่ยวกับการตายของนายอุดม งามขำ ลูกจ้างผู้เอาประกันภัยจากผู้ทำละเมิดได้หรือไม่โดยวินิจฉัยว่า สัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยถึงชีวิตของนายอุดม งามขำ เป็นสัญญาประกันชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะอาศัยความรณะของบุคคลเป็นเงื่อนไขแห่งการใช้เงินตามความหมายในมาตรา 889 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามบทบัญญัติว่าด้วยประกันชีวิตไม่ได้ให้สิทธิผู้รับประกันภัยที่จะเข้ารับช่วงสิทธิแทนกันได้เหมือนอย่างการประกันวินาศภัย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องไล่เบี้ยเอาค่าเสียหายส่วนนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยรับผิดสำหรับรายการนี้ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสามไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ สำหรับรายการที่โจทก์ได้ใช้ค่าเสียหายให้ทายาทของนายอุดม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์