แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279,285 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยสำนวนละ 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ประกอบด้วยมาตรา 279 จำคุกจำเลยสำนวนละ 3 เดือน เป็นการที่ศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทมาตราแห่งความผิด เพียงแต่ปรับบทกฎหมายที่ลงโทษให้ถูกต้อง ทั้งโทษเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แล้วก็ให้จำคุกจำเลยสำนวนละไม่เกิน 5 ปีจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 และวันที่ 15 กันยายน 2524 จำเลยซึ่งเป็นครูโรงเรียนวัดหนองปลาหมอ กระทำอนาจารแก่เด็กหญิง จ. และเด็กหญิง ช. ตามลำดับ ผู้เสียหายทั้งสองเป็นศิษย์อยู่ในความดูแลของจำเลยมีอายุไม่เกินสิบสามปีโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279, 285
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279, 285 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285 ซึ่งเป็นบทหนัก การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมสองสำนวนให้จำคุกจำเลยกรรมละ 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ประกอบด้วยมาตรา 279 รวมสองกระทง กระทงละหนึ่งสำนวน วางโทษจำคุกสำนวนละ 3 เดือน รวมสองสำนวนเป็นจำคุก 6 เดือน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279, 285 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285ซึ่งเป็นบทหนัก และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ประกอบด้วย มาตรา 279 นั้น ศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทมาตราแห่งความผิด เพียงแต่ปรับบทกฎหมายที่ลงโทษให้ถูกต้องทั้งโทษเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แล้วก็ให้จำคุกจำเลยสำนวนละไม่เกินห้าปีจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่โจทก์ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นการฎีกาดุลพินิจของศาลในการกำหนดโทษอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว
พิพากษายกฎีกาโจทก์ทั้งสองสำนวน