แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติสุราฯ บัญญัติความผิดฐานมีสุราซึ่งรู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายไว้ในครอบครองและความผิดฐานนำสุราดังกล่าวออกแสดงเพื่อขาย ไว้ต่างมาตรากัน เพราะการมีไว้ในครอบครองเป็นการกระทำตอนหนึ่งแล้ว การนำออกแสดงเพื่อขายเป็นการกระทำเพิ่มเติมขึ้นอีก เช่นนี้การที่จำเลยมีสุราซึ่งรู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายไว้ในครอบครองและนำออกแสดงเพื่อขายจึงเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2523 จำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมกล่าวคือ มีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในครอบครอง กับทำสุราแช่และสุรากลั่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพสามิต มีสุรากลั่นประมาณ 5 ลิตร 620 เซนติลิตร กับนำสุราดังกล่าวออกแสดงเพื่อขาย โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและมีแป้งเชื้อสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุเกิดที่ตำบลแม่กั๊วะ อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสุราฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษฐานมีเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรา ฐานทำสุรา สำหรับฐานมีสุราและฐานนำสุราออกแสดงเพื่อขาย ให้ลงโทษฐานนำสุราออกแสดงเพื่อขายอันเป็นบทหนักและลงโทษฐานมีแป้งเชื้อสุรา ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานมีสุราไว้ในครอบครองอีกกระทงหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กฎหมายบัญญัติความผิดและบทลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และนำสุราดังกล่าว ออกแสดงเพื่อขาย ไว้คนละมาตรากันการที่จำเลยนำสุราออกแสดงเพื่อขายเป็นเรื่องที่จำเลยได้กระทำการเพิ่มเติมขึ้นอีก นอกเหนือจากการมีสุราไว้ในครอบครอง เพราะจำเลยอาจมีสุราไว้เพื่อเสพโดยไม่ขาย หรือนำออกแสดงเพื่อขายก็ได้ เห็นได้ชัดว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
พิพากษาแก้ ให้ลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายอีกกระทงหนึ่ง