คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2565/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เครื่องยนต์ ฝาสูบ และหัวสูบน้ำ ของกลางเป็นทรัพย์ที่มีผู้นำมาใช้ทำเหมืองแร่และถูกเผาทิ้งอยู่ในบริเวณเหมืองร้างไม่มีผู้ใดดูแล จำเลยได้ขายเป็นเศษเหล็กให้แก่ ส. เมื่อจำเลยทราบว่าผู้เสียหายกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรของกลางดังกล่าว จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนอันแสดงถึงความสุจริตของจำเลย โดยจำเลยเชื่อว่าของกลางดังกล่าวเจ้าของได้ทอดทิ้ง จำเลยจึงได้ขายเป็นเศษเหล็กแก่ ส. โดยไม่มีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักเครื่องยนต์ ฝาสูบเครื่องยนต์ และเหล็กหัวสูบน้ำของผู้เสียหาย หรือมิฉะนั้นก็รับของโจรทรัพย์ดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔, ๓๕๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ จำคุก ๙ เดือน คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เชื่อว่าเครื่องยนต์ ฝาสูบ และหัวสูบน้ำของกลาง เป็นทรัพย์ที่มีผู้นำมาใช้ทำเหมืองแร่และถูกเผาทิ้งไว้ในบริเวณเหมืองร้างไม่มีผู้ใดดูแล และจำเลยได้ขายเป็นเศษเหล็กให้นายสำเริง เมื่อจำเลยทราบว่าผู้เสียหายกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรของกลางดังกล่าว จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน อันแสดงถึงความสุจริตของจำเลย โดยจำเลยเชื่อว่าของกลางดังกล่าวเจ้าของได้ทอดทิ้งจำเลย จึงได้ขายเป็นเศษเหล็กแก่นายสำเริง โดยไม่มีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
พิพากษายืน.

Share