แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 มาตรา 8บัญญัติว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้(1) ส่งเสริมกีฬา (2) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานเกี่ยวกับการกีฬา (3) ศึกษา วิเคราะห์และจัดทำโครงการ แผนงานและสถิติเกี่ยวกับการส่งเสริมการกีฬา รวมทั้งประเมินผล (4) จัดช่วยเหลือ แนะนำและร่วมมือในการจัดและดำเนินการการกีฬา (5) สำรวจจัดสร้าง และบูรณะสถานที่สำหรับการกีฬา (6) ติดต่อร่วมมือกับองค์การหรือสมาคมกีฬาทั้งในและนอกราชอาณาจักร (7) สอดส่องและควบคุมการดำเนินกิจการการกีฬา (8) ประกอบกิจการอื่น ๆ อันเกี่ยวแก่หรือเพื่อประโยชน์ของการกีฬา วัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมการกีฬาและควบคุมการดำเนินกิจการกีฬาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ปรากฏว่าได้ระบุวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจไว้เลย แม้ในมาตรา 10 มาตรา 10 มาตรา 12 และมาตรา 9 บัญญัติให้การกีฬาแห่งประเทศไทย มีทุน รายได้ เงินสำรองและจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินเพื่อหารายได้ก็เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ไม่มีระเบียบข้อบังคับใดเลยที่กำหนดให้นำรายได้ไปแบ่งปันแก่ผู้ใดในฐานะผลกำไรหรือเงินปันผล รายได้หลักของการกีฬาแห่งประเทศไทย มีรายได้จากเงินงบประมาณของแผ่นดินในอัตราเกินกว่าร้อยละเก้า สิบต่อปีของเงินรายได้ทั้งหมด กิจการของการกีฬาแห่งประเทศไทย จึงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดกิจการที่มิให้ใช้บังคับตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 2 และไม่ต้องอยู่ในบังคับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2533จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเหตุเกษียณอายุโดยโจทก์ไม่ได้กระทำผิดขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การต่อสู้ คดี
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 มาตรา 8 ได้บัญญัติว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (1) ส่งเสริมการกีฬา (2)ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานเกี่ยวกับการกีฬา (3)ศึกษา วิเคราะห์และจัดทำโครงการแผนงานและสถิติเกี่ยวกับการส่งเสริมการกีฬา รวมทั้งประเมินผล (4) จัด ช่วยเหลือ แนะนำและร่วมมือในการจัดและดำเนินการการกีฬา (5) สำรวจ จัดสร้างและบูรณะสถานที่สำหรับการกีฬา (6) ติดต่อร่วมมือกับองค์การหรือสมาคมกีฬาทั้งในและนอกราชอาณาจักร (7) สอดส่องและควบคุมการดำเนินกิจการกีฬา (8) ประกอบกิจการอื่น ๆ อันเกี่ยวแก่หรือเพื่อประโยชน์ของการกีฬา จะเห็นว่าวัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมการกีฬาและควบคุมการดำเนินกิจการกีฬาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งสิ้น ไม่ปรากฏว่าได้ระบุวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจไว้เลย แม้ในมาตรา 10 มาตรา 11มาตรา 12 และมาตรา 9 บัญญัติให้จำเลยมีทุน รายได้ เงินสำรองและจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินเพื่อหารายได้ก็เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ดังจะเห็นได้ชัดในมาตรา 37 ที่บัญญัติว่ารายได้หลังจากหักเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และค่าภาระต่าง ๆที่เหมาะสมแล้ว เหลือเท่าใดให้สะสมไว้เป็นเงินสำหรับใช้จ่ายต่อไปไม่มีระเบียบข้อบังคับใดเลยที่กำหนดให้นำรายได้ไปแบ่งปันแก่ผู้ ใดในฐานะผลกำไร หรือเงินปันผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้หลักของจำเลย ปรากฏว่าจำเลยมีรายได้จากเงินงบประมาณของแผ่นดินในอัตราเกินกว่าร้อยละเก้าสิบต่อปีของเงินรายได้ทั้งหมด หากปรากฎจากรายได้ส่วนนี้จำเลยก็อาจจะไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แสดงให้เห็นว่า กิจการของจำเลยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดกิจการที่มิให้ให้บังคับตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้ม ครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 2 กิจการของจำเลยจึงไม่ต้องอยู่ ในบังคับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยจากจำเลย
พิพากษายืน.