คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อขายรถยนต์ดัมทรัค 3 คัน เมื่อขายได้แล้วจะให้ค่านายหน้า 5% โจทก์ได้ติดต่อกับผู้ซื้อซึ่งเป็นหน่วยราชการซึ่งจัดการซื้อรถยนต์ดังกล่าวโดยวิธีประกวดราคา ในการประกวดราคาโจทก์ก็ได้ช่วยเหลือจำเลย จนในที่สุดจำเลยประมูลขายรถยนต์ดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อเป็นผลสำเร็จ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาหรือจัดการให้จำเลยได้ทำสัญญา จำเลยต้องจ่ายค่านายหน้าให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้จัดการได้ทำสัญญากับโจทก์ ว่าถ้าหากโจทก์สามารถติดต่อขายรถยนต์ดัมทรัค ยี่ห้อฟอร์ด จำนวน ๓ คันของจำเลยที่ ๑ ได้จะจ่ายเงินให้โจทก์เป็นเงิน ๕ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ขายรถยนต์ดังกล่าว หลังจากนั้นโจทก์ได้ไปติดต่อกับสำนักงานปุ๋ยกรุงเพทมหานครซึ่งมีความประสงค์จะซื้อรถยนต์ดัมทรัค โจทก์ได้ช่วยเหลือจำเลยในการยื่นซองประกวดราคา จนในที่สุดจำเลยได้ทำสัญญาขายรถยนต์ดัมทรัค ๓ คัน ของจำเลยให้แก่สำนักงานปุ๋ยกรุงเทพมหานครเป็นผลสำเร็จ เป็นเงิน ๖๘๙,๕๐๐ บาท แต่จำเลยไม่จ่ายค่านายหน้าตามที่ตกลง จึงขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยจ่ายค่านายหน้า ๕ เปอร์เซ็นต์ของราคาที่ขายดังกล่าว พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันที่จำเลยรับเงินงวดแรก (๑๑ เมษายน ๑๘) แก่โจทก์
จำเลยให้การว่าเคยให้โจทก์จัดการขายรถยนต์ตามฟ้องจริง แต่ไม่รวมถึงการขายโดยวิธีประกวดราคา เพราะการขายโดยวิธีประกวดราคานั้นจำเลยมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกับหน่วยราชการอยู่แล้ว ผลสำเร็จในการขายโดยวิธีประกวดราคาไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้ติดต่อ แต่สำเร็จเพราะการต่อสู้กันเรื่องเสนอราคาต่ำกว่าผู้ขายรายอื่น การขายรถยนต์ดัมทรัคของจำเลยที่ ๑ ไม่ได้เกิดจากการติดต่อของโจทก์ จำเลยที่ ๒ ทำในฐานะผู้จัดการของจำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้จัดการของจำเลยที่ ๑ ได้สัญญาให้ค่านายหน้าแก่โจทก์ในการขายรถยนต์ดัมทรัค ๓ คันของจำเลยตามฟ้อง พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่านายหน้าแก่โจทก์ตามฟ้อง ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า จำเลยที่ ๑ ตกลงให้โจทก์ติดต่อขายรถยนต์ดัมทรัค ๓ คันกับสำนักงานปุ๋ยกรุงเทพมหานคร เมื่อสำนักงานปุ๋ยเรียกประกวดราคาซื้อขายรถยนต์ดัมทรัค โจทก์ก็ได้แจ้งให้จำเลยที่ ๑ ทราบ ได้ขอแบบฟอร์มจากเจ้าหน้าที่สำนักงานปุ๋ยมามอบให้จำเลยที่ ๑ ทราบ และได้ไปยื่นซองประกวดราคากับเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ด้วย เมื่อจำเลยที่ ๑ ประกวดราคาได้ โจทก์ก็ได้พาจำเลยที่ ๒ ผู้จัดการของจำเลยที่ ๑ ไปเซ็นสัญญาขายรถยนต์ดังกล่าว ตอนส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวโจทก์ก็เป็นผู้ถือเอกสารและนำรถยนต์ดังกล่าวไปมอบให้หัวหน้าแผนกกองโรงงาน สำนักงานปุ๋ย
ศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ติดต่อให้จำเลยที่ ๑ ขายรถยนต์ดัมทรัค ๓ คัน กับสำนักงานปุ๋ยกรุงเทพมหานคร จนเป็นผลสำเร็จดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ได้ติดต่อชักนำชี้ช่องให้จำเลยที่ ๑ ได้เข้าทำสัญญาขายรถยนต์ดัมทรัคกับสำนักงานปุ๋ยกรุงเทพมหานครสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ได้ชี้ช่องและจัดการ ถึงแม้ว่าการซื้อขายรถยนต์ดัมทรัคนั้นจะมีการประกวดราคาอันทำให้จำเลยที่ ๑ ต้องเสนอราคาขายให้ต่ำกว่าผู้ขายรายอื่นก็ตาม แต่ในที่สุดจำเลยที่ ๑ ก็เป็นผู้ประมูลราคาได้และได้เข้าทำสัญญาขายรถยนต์ดัมทรัคให้แก่สำนักงานปุ๋ยกรุงเทพมหานครได้ เพราะโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องนั่นเอง ถือได้ว่าโจทก์ได้ชี้ช่องให้จำเลยที่ ๑ เข้าทำสัญญาหรือจัดการให้ได้ทำสัญญาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๔๕ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาของจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share