คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2554/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้ยืมเงินไปแล้วไม่ชำระหนี้ จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้ ลายมือชื่อผู้กู้ในหนังสือสัญญากู้ยืมท้ายฟ้องไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย สัญญาดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ดังนี้ คดีมีประเด็นเพียงว่า จำเลยทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้องหรือไม่การที่จำเลยนำสืบว่าจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว เป็นการนำสืบนอกประเด็นข้อพิพาท รับฟังไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ 100,000 บาท หลังจากกู้เงินไปแล้วจำเลยไม่ชำระต้นเงินและดอกเบี้ย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยชั่งละ 1 บาท

จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ ลายมือชื่อผู้กู้ในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย หนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม โจทก์ไม่เคยทวงถาม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนตามฟ้องและดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ชั่งต่อเดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 100,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีประเด็นเพียงว่าจำเลยทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ โจทก์นำสืบว่าจำเลยยังมิได้ชำระต้นเงินและดอกเบี้ย จำเลยนำสืบว่าจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว พิเคราะห์แล้ว การที่จำเลยนำสืบว่าจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้วเป็นการนำสืบนอกประเด็นข้อพิพาท รับฟังไม่ได้ คดีจึงฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยแก่โจทก์

พิพากษายืน

Share