คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2553/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบรรยายฟ้องของโจทก์แม้จะไม่มีข้อความที่บรรยายถึงการเป็นนิติบุคคลของโจทก์และไม่ได้แนบหลักฐานใดที่แสดงถึงการเป็นนิติบุคคลของโจทก์และความเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมาในฟ้องก็ตาม ก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์ย่อมนำสืบแสดงฐานะของโจทก์ในชั้นพิจารณาได้ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อพ.ศ.2521 จำเลยได้ซื้อผ้าไปจากโจทก์ 19 คราวรวมเป็นเงิน 112,714 บาท แต่ทำหลักฐานเป็นใบรับฝากสินค้าไว้และผ้านั้นจำเลยได้ขายไปหมดแล้ว หลักฐานจะได้ส่งศาลในวันพิจารณานั้นเป็นฟ้องที่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว แม้โจทก์มิได้แนบสำเนาใบรับฝากสินค้ามาพร้อมกับคำฟ้องและมิได้บรรยายรายละเอียดว่าที่จำเลยซื้อผ้าจากโจทก์ 19 คราว เป็นการซื้อขายในคราวไหน เดือนใดก็ตามก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์ย่อมนำสืบแสดงได้ในชั้นพิจารณา
โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยก่อนวันสืบพยานโจทก์เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 90 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งถ้าศาลเห็นว่าเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังเอกสารดังกล่าวนั้นได้ตามบทบัญญัติของมาตรา 87(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อปี พ.ศ. 2521 จำเลยซื้อผ้าไปจากโจทก์ 19 คราวรวมเป็นเงิน 112,714 บาท แต่ทำหลักฐานเป็นใบรับฝากสินค้าไว้และผ้านั้นจำเลยได้ขายไปหมดแล้ว โจทก์ทวงถามจำเลยให้ชำระราคา จำเลยไม่ชำระขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้เงินตามฟ้องให้โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่มีข้อความใดที่บรรยายถึงการเป็นนิติบุคคลของโจทก์ และไม่ได้แนบหลักฐานใดที่แสดงถึงการเป็นนิติบุคคลของโจทก์และความเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์ ทั้งได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อผ้าไปจากโจทก์ 19 คราวโดยทำเป็นใบรับฝากสินค้าไว้ 19 ฉบับ แต่โจทก์มิได้แนบสำเนาใบรับฝากสินค้ามาพร้อมกับฟ้องทำให้จำเลยไม่สามารถเข้าใจข้อหาในคำฟ้องเพียงพอที่จะให้การต่อสู้คดีได้และจำเลยไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นการซื้อขายในคราวไหนเดือนใด ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ฟ้องโจทก์จะไม่มีข้อความที่บรรยายถึงการเป็นนิติบุคคลของโจทก์ และไม่ได้แนบหลักฐานใดที่แสดงถึงการเป็นนิติบุคคลของโจทก์และความเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการก็ตาม ก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์ย่อมนำสืบแสดงฐานะของโจทก์ในชั้นพิจารณาได้ ส่วนที่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าเมื่อ พ.ศ. 2521 จำเลยได้ซื้อผ้าไปจากโจทก์ 19 คราว แต่ทำหลักฐานเป็นใบรับฝากสินค้าไว้ และผ้านั้นจำเลยได้ขายไปหมดแล้ว หลักฐานจะได้ส่งศาลในวันพิจารณานั้น เป็นฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว แม้โจทก์มิได้แนบสำเนาใบรับฝากสินค้าพร้อมกับคำฟ้องและมิได้บรรยายรายละเอียดว่าที่จำเลยซื้อผ้าจากโจทก์ 19 คราวเป็นการซื้อขายในคราวไหน เดือนใดก็ตาม ก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์ย่อมนำสืบแสดงได้ในชั้นพิจารณา

โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยก่อนวันสืบพยานโจทก์ฝ่าฝืนมาตรา 90 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่ถ้าศาลเห็นว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังเอกสารดังกล่าวได้ตามมาตรา 87(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

พิพากษายืน

Share