คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืม จำเลยรับว่าได้ออกเช็คดังกล่าวจริง ในเบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คการที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์นั้นเพื่อชำระหนี้การพนัน เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อจะไม่ต้องรับผิดในเช็คดังกล่าว ภาระการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนั้นจึงตกอยู่แก่จำเลย เมื่อจำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์เป็นการชำระหนี้การพนัน แม้โจทก์จะมิได้สืบพยาน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 และ มาตรา 904
คดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องเป็นคดีที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คส่วนคดีแพ่งโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คอันเป็นสิทธิเรียกร้อง โดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 มาใช้ บังคับไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้โจทก์เป็นการชำระหนี้เงินยืมโจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า เช็คฉบับดังกล่าวจำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้การพนัน จึงไม่สมบูรณ์ และศาลได้วินิจฉัยไว้ในคดีอาญาแล้วว่าเช็คดังกล่าวออกในมูลหนี้การพนัน มิใช่หนี้กู้ยืม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อสืบตัวจำเลยแล้วจำเลยแถลงว่าหมดพยาน ศาลนัดสืบพยานโจทก์แต่โจทก์ขอเลื่อนหลายครั้งจนศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ แล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เป็นการชำระหนี้เงินยืม จำเลยให้การรับว่าได้ออกเช็คพิพาทให้โจทก์ในเบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และจำเลยผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คพิพาทตามมาตรา 900 การที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้การพนันนั้น เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อจำเลยจะไม่ต้องรับผิดในเช็คพิพาทภาระการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนั้นจึงตกอยู่แก่จำเลยที่กล่าวอ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 เมื่อจำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าเช็คพิพาทที่จำเลยออกให้โจทก์เป็นการชำระหนี้การพนัน แม้โจทก์จะมิได้สืบพยาน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์

คดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องเป็นคดีที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คอันเป็นสิทธิเรียกร้องโดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 มาใช้บังคับไม่ได้

พิพากษายืน

Share