คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาติ นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้จึงไม่ถูกต้อง และในปัญหาดังกล่าวนี้แม้จะไม่มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกปล้นทรัพย์และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี, ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๔, ๑๕ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๑๐ มาตรา ๓ ริบของกลาง
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี, ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อง ๑๔, ๑๕ จำคุกคนละ ๒๐ ปี และมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๑๐ มาตรา ๓ จำคุกคนละ ๖ เดือน ลดโทษให้จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ ๑๐ ปี ๓ เดือน ริบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนของกลาง คืนเข็มขัด+ของกลางให้ผู้เสียหาย กับให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนอีก ๕๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ ได้ร่วมกับจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และพวกกระทำความผิดตามฟ้อง แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ นั้น ยังไม่ถูกต้อง เพราะในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๑๘ มาตรา ๓ ยอมให้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน ๙๐ วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จึงต้องถือว่าในระหว่างนั้นกฎหมายยกเว้นโทษให้แก่จำเลย แสดงว่ากฎหมายที่ใช้ในขณะจำเลยกระทำผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำผิด และพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๑๘ เป็นคุณแก่จำเลยจึงฟ้องใช้พระราชบัญญัตินี้มาปรับคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓ วรรคแรกจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิดฐานนี้ จึงไม่ถูกต้อง และในปัญหาดังกล่าวนี้แม้จะไม่มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสามในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share