แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดี ก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง ขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันปลอมหนังสือและฉ้อโกง ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๒๓ , ๓๐๔
จำเลยปฏิเสธ
ศาลแขวงสืบพยานไปบ้างแล้ว มีคำสั่งว่าน่าจะเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวงสอบถามคู่ความแล้วสั่งงดสืบพยาน แล้วพิพากษาว่าเป็นคดีมีอัตรโทษเกินอำนาจศาลแขวง ให้ยกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ ภายหลังจำเลยที่ ๒-๓ ถอนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวง ให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๒๓,๓๐๔ ซึ่งเป็นคดีมีอัตราโทษอย่างสูงจำคุกไม่เกิน ๓ ปี และปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท ศาลแขวงมีอำนาจที่จะพิจารณาได้ตามพระธรรมนูญศาลยุตติธรรมมาตรา ๒๒(๒) แม้ศาลจะเห็นว่า หนังสือที่ปลอมเป็นหนังสือสำคัญในราชการ อันจะเป็นความผิดตามมาตรา ๒๒๔,๒๒๕ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกินกว่า ๓ ปีก็ดี ก็เป็นบทนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์ ซึ่งศาลจะไม่พิพากษาถึงข้อนั้น จึงอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาต่อไป
จึงพิพากษายืน