คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหลังจากที่มีคำสั่งนัดพร้อม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้ขายที่ดินที่ส่วนของจำเลยให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว หากโจทก์จะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมอย่างใด ก็ชอบที่จะดำเนินการกับจำเลยในทางอื่น ศาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยแบ่งที่ดินของจำเลยไว้เพื่อปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากชั้นเดิมโจทก์ฟ้องให้ศาลสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินลงชื่อโจทก์ทั้งสามในโฉนดที่ดิน ๒ แปลง หรือให้ประมูลระหว่างกันเองก่อน หากไม่ตกลงให้ขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกัน จำเลยให้การต่อสู้คดีขอให้ยกฟ้องโจทก์
คู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอม มีข้อความสำคัญว่า จำเลยยอมยกที่ดินซึ่งโจทก์ที่ ๒ ที่ ๓ ปลูกบ้านอยู่ให้แก่โจทก์ที่ ๒ และที่ ๓ โดยได้กำหนดเขตกันไว้ และให้เว้นที่ดินบางส่วนไว้เพื่อจำเลยจะทำถนนเป็นทางออกของจำเลย และจำเลยยินยอมให้โจทก์ที่ ๒ ที่ ๓ และครอบครัวใช้ถนนสายนี้และทางในบ้านจำเลยเพื่อลงสู่แม่น้ำได้ตลอดไป
ต่อมาโจทก์ที่ ๒ ที่ ๓ ยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยได้นำเจ้าพนักงานที่ดินไปทำการรังวัด แต่ยังตกลงกันไม่ได้ และจำเลยได้ขายที่ดินส่วนของจำเลยให้แก่ผู้อื่นโจทก์ทั้งสองไม่มีทางจะบังคับจำเลยได้ ขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยมาสอบถามเพื่อจัดการให้เป็นไปตามคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม ในวันนัดพร้อม จำเลยแถลงว่าได้ขายที่ดินให้แก่บุคคลภายนอกจริง แต่ขายไปเฉพาะส่วนของจำเลยรวมทั้งถนนด้วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเรื่องถนนซึ่งโจทก์มีสิทธิใช้นั้น ตามข้อแถลงของจำเลยแสดงว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอม จึงให้จำเลยไปจัดการตามสัญญาประนีประนอมให้ถูกต้อง และสั่งนัดพร้อมอีกครั้ง ถึงวันนัดพร้อมครั้งหลัง จำเลยแถลงว่า ผู้ซื้อที่ดินของจำเลยว่าไม่อาจจดทะเบียนให้โจทก์มีสิทธิที่จะใช้ถนนได้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ถือว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา และจำเลยสามารถปฏิบัติได้ถ้าจำเลยสุจริต และไม่มีวิธีอื่นใดที่จะบังคับจำเลยได้ นอกจากขังจำเลยไว้จนกว่าจะปฏิบัติตามคำพิพากษา จึงให้หมายขังจำเลยไว้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ขังจำเลยไว้นั้นเสีย
โจทก์ที่ ๒ ที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ขังจำเลยไว้นั้น ปรากฏว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมมิได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งจะต้องมีการไต่สวนเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นด่วนมีคำสั่งกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหลังจากที่มีคำสั่งนัดพร้อม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่คู่ความตกลงกันไว้นั้น ก็ปรากฏว่าต่อมาจำเลยได้ขายที่ดินส่วนของจำเลยให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว หากโจทก์จะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมอย่างใดก็ชอบที่จะดำเนินการกับจำเลยในทางอื่น ศาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยแบ่งที่ดินของจำเลยไว้เพื่อปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
พิพากษายืน.

Share