แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยอายุ 67 ปี เอาของลับทิ่มแทงเข้าไปในของลับของเด็กหญิงอายุ 4 ขวบเศษ ช้ำแดง เยื่อพรหมจารีด้านล่างฉีกขาด ไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอดได้ เป็นพยายามข่มขืนชำเรา
ย่อยาว
จำเลยอายุ 67 ปี ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 4 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277, 80 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงสุวรรณจันทร์ผู้เสียหายหรือไม่นั้น ปรากฏตามสำนวนว่าผู้เสียหายมาเบิกความต่อศาล ได้ตอบคำถามของโจทก์ 3-4ประโยคถึงตอนที่ว่าผู้เสียหายไปวิ่งเล่นแถวหน้าห้องจำเลยแล้วผู้เสียหายไม่ยอมตอบคำถามของโจทก์อีก แม้บิดามารดาถามก็ไม่ยอมพูดจนศาลชั้นต้นสืบพยานปากนี้ต่อไม่ได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นน่าจะเป็นเพราะผู้เสียหายอายุเพียง4 ขวบเศษ ยังไร้เดียงสา แม้ขณะเบิกความต่อศาลยังต้องให้มารดาอุ้มอย่างไรก็ตามโจทก์มีนางเช้ยเจียมารดาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพยานใกล้ชิดเหตุการณ์เบิกความว่า วันเกิดเหตุผู้เสียหายถือกล้วยไข่ 2 ใบ เหงื่อแตกและหน้าซีดวิ่งมาบอกพยานว่าถูกตาแป๊ะเอาควยทิ่มหี พยานได้ไปที่ห้องจำเลย ประตูห้องของจำเลยปิด ได้ตะโกนเรียก แต่ไม่มีใครเปิด จึงดึงบานประตูออก เห็นจำเลยยืนอยู่กลางห้องคนเดียว จึงถามจำเลยว่าทำไมทำกับเด็กอย่างนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า ทันทีที่นางเช้ยเจียทราบเหตุจากผู้เสียหายก็ได้ไปไต่ถามต่อว่าจำเลย เมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ พยานก็พาผู้เสียหายไปบอกนายชั้วสามี แล้วพากันไปแจ้งความต่อตำรวจ ร้อยตำรวจเอกอวยชัยพนักงานสอบสวนเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่าในวันนั้นได้สอบถามผู้เสียหายว่าเจ็บตรงไหน ผู้เสียหายชี้ไปที่ของลับ นอกจากนี้ผลการตรวจอวัยวะเพศของผู้เสียหายในวันเกิดเหตุ ตามคำเบิกความของพันตำรวจเอกพัลลภนายแพทย์ประจำโรงพยาบาลตำรวจประกอบกับรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องได้ความว่า อวัยวะสืบพันธุ์ผู้เสียหายแคมนอกและแคมในช้ำแดง เยื่อพรหมจารีฉีกขาดส่วนด้านล่าง ช่องคลอดและปากมดลูกไม่สามารถตรวจได้เพราะขนาดเล็กมาก ปากช่องคลอดไม่พอบตัวอสุจิ ตามพยานหลักฐานโจทก์ดังกล่าว ประกอบกับจำเลยให้การชั้นสอบสวนรับว่าในวันเกิดเหตุได้อุ้มผู้เสียหายเข้าไปในบ้านของจำเลยจริง ข้อเท็จจริงเชื่อว่าจำเลยได้เอาของลับจำเลยทิ่มแทงเข้าไปในของลับผู้เสียหาย จึงเป็นเหตุให้อวัยวะสืบพันธุ์ผู้เสียหายแคมนอกแคมในช้ำแดง และเยื่อพรหมจารีด้านล่างฉีกขาดแต่เนื่องจากช่องคลอดของผู้เสียหายเล็กมาก ของลับของจำเลยจึงไม่อาจล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอดของผู้เสียหายได้ และไม่สำเร็จความใคร่ การตรวจของแพทย์จึงไม่พบตัวอสุจิที่ปากช่องคลอด แต่การกระทำของจำเลยเข้าขั้นพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว”
พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น