คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2521/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ที่มิใช่เจ้าของทรัพย์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำทรัพย์นั้นไปจำนอง
แม้เอกสารต่อท้ายสัญญาจำนองจะมีข้อความระบุว่าผู้จำนองได้จำนองสิ่งปลูกสร้างซึ่งได้ปลูกสร้างขึ้นภายหลังจำนองด้วย ข้อความดังกล่าวก็ย่อมหมายถึงสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จำนองเท่านั้น ไม่รวมถึงทรัพย์ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลภายนอกด้วย ผู้รับจำนองจึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายสิ่งปลูกสร้างของบุคคลภายนอกซึ่งได้ปลูกสร้างไว้บนที่ดินของผู้จำนอง

ย่อยาว

โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดโรงงานหีบฝ้าย 1 โรง โกดังเก็บฝ้าย 1 โรงของจำเลยที่ 1 เพื่อบังคับคดีชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาก่อนถึงวันขายทอดตลาด ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำนองตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมา ในคดีแพ่งแดงที่ 706/2513 ระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด โจทก์ บริษัทอุพาณิชานนท์ จำกัด ที่ 1นายปัญญา กอุพาณิชานนท์ ที่ 2 นางลัง รักจันทึก ที่ 3 จำเลย ซึ่งศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้แก่ผู้ร้อง แต่จำเลยทั้งสามยังมิได้ชำระ ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของจำเลยที่ 1ปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยที่ 3 ในสำนวนที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ โดยจำเลยที่ 3 ได้จดทะเบียนจำนองไว้กับผู้ร้องเป็นการจำนองรวมจึงขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289

ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ โจทก์แถลงรับว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุดดังผู้ร้องอ้างจริง แต่ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดมีภายหลังที่จำเลยได้ทำจำนองกับผู้ร้อง จึงไม่ผูกพันผู้ร้องที่จะเรียกเอาก่อนโจทก์

ศาลชั้นต้นสั่งว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำนอง จึงมีบุริมสิทธิเหนือกว่าในอันจะได้รับชำระหนี้ก่อน อนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ตามคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์โต้เถียงว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดมีขึ้นภายหลังที่จำเลยทำสัญญาจำนองกับผู้ร้อง เท่ากับว่าไม่มีการจำนองทรัพย์ที่โจทก์นำยึด ถ้าเป็นจริงผู้ร้องก็ไม่เป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ สมควรให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนว่าทรัพย์ทั้งสองรายการนี้มีขึ้นภายหลังหรือไม่ พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนและสั่งใหม่ตามรูปคดี

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โรงหีบฝ้ายกับโกดังเก็บฝ้ายที่โจทก์นำยึดเป็นของบริษัทอุพาณิชานนท์ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์และผู้ร้อง นางลัง รักจันทึก เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องได้จำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้กับผู้ร้อง ทรัพย์ทั้งสองรายการดังกล่าวปลูกอยู่บนที่ดินของนางลังซึ่งจำนองไว้กับผู้ร้อง แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อนางลังมิใช่เจ้าของทรัพย์ 2 รายการดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิที่จะนำไปจำนองผู้ร้อง แม้เอกสารต่อท้ายสัญญาจำนองจะมีข้อความระบุว่าผู้จำนองได้จำนองสิ่งปลูกสร้างซึ่งได้ปลูกสร้างขึ้นภายหลังจำนองก็ตาม ข้อความในเอกสารดังกล่าวก็หมายถึงสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จำนองเท่านั้น หารวมทั้งทรัพย์ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลภายนอกไม่ สัญญาจำนองซึ่งนางลังจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้กับผู้ร้อง จึงไม่รวมถึงโรงหีบฝ้ายและโกดังเก็บฝ้ายรายพิพาท และเมื่อไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำนอง ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากเงินที่ขายทรัพย์ 2 รายการนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

Share