คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โคซึ่งได้ใช้งานแล้วเป็นโคที่ต้องทำตั๋วรูปพรรณตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 มาตรา 8(3) และเป็น สัตว์พาหนะ ตามมาตรา 4
การซื้อขายโคซึ่งได้ใช้งานแล้ว แม้จะยังไม่ได้ทำตั๋วรูปพรรณก็ต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 มิฉะนั้นการซื้อขายเป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติป่าไม้และริบของกลางจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษปรับคนละ 500 บาท ริบของกลางซึ่งมีเกวียน 1 เล่ม และโค 2 ตัวรวมอยู่ด้วย

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าเกวียนและโคของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบนั้นเป็นของผู้ร้อง ซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ขอให้สั่งคืนเกวียนและโคแก่ผู้ร้อง

โจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องมิใช่เจ้าของทรัพย์ดังกล่าว และผู้ร้องยินยอมให้นำทรัพย์สินไปใช้กระทำความผิด ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งให้คืนทรัพย์ดังกล่าวแก่ผู้ร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ผู้ร้องซื้อโคของกลางซึ่งได้ใช้งานแล้วแต่ยังมิได้ทำตั๋วรูปพรรณจากนายมี ปุกคำ โดยมิได้จดทะเบียนการซื้อขายแล้วให้จำเลยยืมไปใช้ปัญหาว่าการซื้อขายโครายนี้เป็นโมฆะหรือไม่ เห็นว่าขณะที่ซื้อขายโคดังกล่าวได้ใช้งานแล้ว จึงเป็นโคที่ต้องทำตั๋วรูปพรรณตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482 มาตรา 8(3) โคของกลางจึงเป็นสัตว์พาหนะตามมาตรา 4 การซื้อขายโคดังกล่าวจึงต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456ไม่มีข้อยกเว้นว่าสัตว์พาหนะที่ยังไม่ได้ทำตั๋วรูปพรรณไม่ต้องจดทะเบียนการซื้อขาย ดังนั้น การซื้อขายโคของกลางจึงเป็นโมฆะ โคยังเป็นของนายมี ปุกคำผู้ร้องมิใช่เจ้าของโคของกลาง

พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่คืนโคของกลาง 2 ตัวแก่ผู้ร้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share