คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อตกลงกันว่า ถ้าจัดการเร่งรัด หนี้สินจากลูกหนี้+ได้รับชำระหนี้ครบถ้วนแล้วจะให้ค่าบำเหน็จสินจ้างข้อตกลงเช่นว่านี้เป็นสัญญาเข้าอยู่ในประเภทสัญญาจ้างทำของ+มีกฏหมายบังคับว่าจะต้องทำตามแบบอย่างใด แม้+ทำเป็นลายลักษณอักษรฟ้องร้องบังคับคดีได้ อาญา อย่างไรไม่เรียกว่าเป็นอาญายุยงให้เขาฟ้องความกันพอเจ้าหนี้ประสงค์จะฟ้องลูกหนี้อยู่แล้วจึงมีผู้รับอาสาจะจัดการเร่งรัดฟ้องร้องหนี้ให้เจ้าหนี้ดังนี้ สัญญาเช่นนี้เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่

ย่อยาว

เดิมจำเลยเป็นเจ้าหนี้ ต.จำเลยได้ตกลงกับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์จัดการหาทนายฟ้อง ต.ลูกหนี้ของจำเลยแลสืบหาทรัพย์ของ ต.เร่งรัดได้ต้นเงินที่ ต.กู้ไปครบถ้วนแล้ว จำเลยยอมยกดอกเบี้ยให้โจทก์ โจทก์จึงจัดการหาทนายฟ้อง ต.จนศาลได้พิพากษาให้ ต.แพ้ แลยึดทรัพย์ ต.ในที่สุดจำเลยได้รับชำระต้นเงินแลดอกเบี้ย ๒๑๕๒ บาท ๕๐ สตางค์ โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงิน ๒๑๕๒ บาท ๕๐ สตางค์แก่โจทก์ตามที่ตกลงกัน
ศาลล่างทั้ง ๒ เห็นว่าสัญญาชนิดนี้หาจำต้องทำเป็นลายลักษณอักษรไม่ แลวินิจฉัยว่าสัญญาประเภทนี้เป็นสัญญาจ้างทำของ หาเป็นสัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อยแลศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่
ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาที่โจทก์จำเลยตกลงกันเป็นสัญญาอยู่ในประเภทสัญญาจ้างทำของโดยคู่สัญญามุ่งตรงต่อผลสำเร็จกแห่งการงานที่ทำ แม้จะมิได้ทำเป็นลายลักษณอักษรก็ใช้บังคับได้ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำตามแบบแต่อย่างใด ส่วนข้อที่ว่าเป็นสัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อยแลศีลธรรมอันดีของประขาขนนั้น เห็นว่าไม่มีเหตุอย่างใดที่จะถือได้ว่าสัญญามีวัตถุที่ประสงค์อย่างนั้น เพราะหาใช่ว่าโจทก์ยุยงส่งเสริมให้จำเลยฟ้องคดีโดยจัดการในทางมิชอบก็หามิได้ ความจริงจำเลยก็มีความประสงค์จะฟ้อง ต.อยู่แล้วเหมือนกัน จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share