คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีสิทธิครอบครองและสิทธิต่าง ๆ บรรดาที่กฎหมายให้ไว้แก่กรมรถไฟดังพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 15 บัญญัติไว้ จำเลยจึงอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 มาใช้ยันแก่โจทก์ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บุกรุกเข้ามาใช้ที่ดินของโจทก์ปลูกบ้าน ขอให้ศาลบังคับขับไล่
จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยครอบครองมาเกิน ๑๐ ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยและบริวารเลิกใช้ประโยชน์ในที่ดินและรื้อถอนโรงเรือนทั้งหมดออกไป และให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ที่จำเลยฎีกาคัดค้านว่า โจทก์มิได้จัดการฟ้องเรียกคืนการครอบครองภายใน ๑ ปี โจทก์ขาดสิทธิฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๕ นั้น เห็นว่า มาตรานี้ใช้บังคับในกรณีผู้มีสิทธิครอบครองถูกแย่งการครอบครอง แต่คดีนี้โจทก์มิใช่มีแต่เพียงสิทธิครอบครองเท่านั้น โจทก์มีสิทธิต่าง ๆ บรรดาที่กฎหมายให้ไว้แก่กรมรถไฟ ดังพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๕ บัญญัติไว้ด้วย จำเลยจึงอ้างมาตรา ๑๓๗๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้แก่โจทก์ในกรณีนี้ไม่ได้ แม้โจทก์จะฟ้องร้องจำเลยเกินกำหนด ๑ ปี โจทก์ก็ไม่ขาดสิทธิฟ้องร้อง
พิพากษายืน.

Share