คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2482/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการโทรศัพท์ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน อันถือได้ว่าโจทก์ดำเนินกิจการสาธารณูปโภค แต่โจทก์ก็มีอำนาจดำเนินกิจการได้หลายประการ เช่น มีอำนาจซื้อ เช่า ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รวมทั้งสามารถเข้าหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลใด ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจการของบุคคลจำพวกที่ค้าทั้งสิ้น การที่จำเลยเช่าคู่สายเคเบิลจากโจทก์เพื่อใช้บริการเครื่องเทเล็กซ์โดยโจทก์คิดค่าเช่าเป็นรายเดือนนั้น จึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ฟ้องเรียกเอาค่าเช่าจากจำเลย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165 (6) มีอายุความ 2 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเช่าคู่สายเคเบิลโทรศัพท์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ ๒ ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๖๕(๖) แล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยรับผิดตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ.๒๔๙๗ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๒๕ จำเลยได้เช่าใช้บริการเครื่องเทเล็กซ์กับการสื่อสารแห่งประเทศไทย เพื่อการนี้การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้เช่าคู่สายเคเบิลโทรศัพท์จากโจทก์ให้แก่จำเลย ซึ่งจำเลยตกลงรับรองเงื่อนไขการเช่าคู่สายเคเบิลโทรศัพท์กับโจทก์ เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๒๕ โดยจำเลยต้องชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์เดือนละ ๒,๐๐๐ บาทต่อมาจำเลยค้างชำระค่าเช่าคู่สายเคเบิลโทรศัพท์โจทก์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๒๕ ถึงเดือนกรกฏาคม๒๕๒๘ เป็นเงิน ๗๒,๐๐๐ บาท โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างดังกล่าวจากจำเลยพ้นกำหนด ๒ ปีนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ ปัญหาวินิจฉัยในชั้นฎีกามีว่า คดีโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์มิได้เป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๖) เพราะโจทก์มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าของกิจการโทรศัพท์โดยมิได้มุ่งหมายประโยชน์ในทางค้ากำไร ทั้งการดำเนินกิจการของโจทก์จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน ตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ.๒๔๙๗ โจทก์จึงเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายพิเศษ ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงไม่ได้มีกำหนดอายุความ ๒ ปี พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการโทรศัพท์ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน ตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ.๒๔๙๗อันถือได้ว่าโจทก์ดำเนินกิจการสาธารณูปโภคนั้น ไม่ได้หมายความว่าโจทก์เป็นบุคคลจำพวกที่ค้าไม่ได้เมื่อดูตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จะเห็นว่าโจทก์มีอำนาจดำเนินกิจการได้หลายประการเช่น มีอำนาจ ซื้อ เช่า ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รวมทั้งสามารถเข้าหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลใด ๆ ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจการของบุคคลจำพวกที่ค้าทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ก็แต่เฉพาะกิจการบางอย่างที่สำคัญเท่านั้น คณะรัฐมนตรีหาได้มีอำนาจที่จะห้ามมิให้โจทก์เป็นบุคคลจำพวกที่ค้าแต่ประการใดฉะนั้น การที่จำเลยเช่าคู่สายเคเบิลจากโจทก์เพื่อใช้บริการเครื่องเทเล็กซ์ โดยโจทก์คิดค่าเช่าเป็นรายเดือนนั้น เป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ฟ้องเรียกเอาค่าเช่าดังกล่าวจากจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๖) ซึ่งมีอายุความ ๒ ปีเมื่อโจทก์ฟ้องพ้นกำหนด ๒ ปี นับแต่ขณะที่จะอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
พิพากษายืน.

Share