คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในเรื่องริบทรัพย์นั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18บัญญัติว่าเป็นโทษสถานหนึ่ง แต่ก็เป็นโทษที่มุ่งถึงตัวทรัพย์เป็นสำคัญต่างกับโทษสถานอื่น แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 ศาลก็ชอบที่จะสั่งริบทรัพย์สินของกลางได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเล่นการพนันทายเลขหลังรูปภาพอันเป็นการเล่นที่มีลักษณะคล้ายการเล่นการพนันไฮโลว์ ตามบัญชี ก. หมายเลข ๒๓ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนทั้งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดอนุญาตให้เล่นได้เจ้าพนักงานจับได้พร้อมด้วยรูปภาพเขียนตัวเลขด้านหลัง ๕๐ ใบ กระดาษเขียนตัวเลขสำหรับให้ลูกค้าแทง ๑ แผ่น เงินสด๑๒ บาท ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นและเป็นทรัพย์สินพนันในวงการเล่นเป็นของกลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๕ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๕)พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ จำเลยอายุไม่เกิน ๑๔ ปี ไม่ต้องรับโทษศาลได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้วให้ปล่อยตัวไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๔ การริบทรัพย์เป็นโทษอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘เมื่อจำเลยไม่ต้องรับโทษ และตามพระราชบัญญัติการพนัน มาตรา ๑๐ วรรคแรกไม่ได้บัญญัติให้ริบทรัพย์สินพนันในกรณีที่ไม่มีผู้ถูกลงโทษ จึงไม่ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ให้ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องริบทรัพย์สินนั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๘ บัญญัติว่า เป็นโทษสถานหนึ่งสำหรับลงแก่ผู้กระทำความผิดแต่ก็เป็นโทษที่มุ่งถึงตัวทรัพย์เป็นสำคัญ ต่างกับโทษสถานอื่น ดังนั้นแม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดคดีนี้ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๔ ก็ตาม ศาลก็ชอบที่จะสั่งริบทรัพย์สินของกลางได้และสำหรับของกลางในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันอันจะพึงริบตามพระราชบัญญัติการพนันพุทธศักราช ๒๔๗๘ มาตรา ๑๐ เมื่อพิเคราะห์ความในบทบัญญัติของมาตรานี้แล้วจะเห็นได้ว่า แยกได้เป็น ๒ อย่าง คือ ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นอย่างหนึ่งและเครื่องมือที่ใช้ในการเล่น อีกอย่างหนึ่ง ความในมาตรา ๑๐ วรรคแรกบัญญัติว่าทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือขัดต่อข้อความในกฎกระทรวงหรือใบอนุญาตซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ให้ริบเสียทั้งสิ้น เว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน เหตุนี้เงินสด ๑๒ บาทของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินพนันกันที่เอาออกพนันซึ่งจับได้ในวงการเล่น จึงเป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาด ตามที่พระราชบัญญัติการพนันบัญญัติไว้ดังกล่าวแล้ว
ส่วนรูปภาพและกระดาษเขียนตัวเลขของกลาง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นนั้น ความในมาตรา ๑๐ วรรค ๒ ได้บัญญัติว่า ให้ศาลมีอำนาจริบได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา ดังนี้ เฉพาะทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลจึงมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้ เฉพาะคดีนี้ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรให้ริบที่ศาลอุทธรณ์ไม่ริบของกลางในคดีนี้จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
เหตุนี้จึงพิพากษาแก้ เป็นว่า ให้ริบของกลางเสียทั้งสิ้น นอกจากที่แก้นี้แล้วคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share