แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ในฟ้องว่า เหตุเกิดวันที่ 30 ก.ย. 2502 เวลากลางวัน เช่นนี้ ต้องฟ้องต่อศาลทหาร โจทก์จะนำคดีมาฟ้องยังศาลพลเรือนได้หาไม่ เพราะตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 16 ข้อ 1 (9) ระบุมาตรา 334 ให้อยู่ในอำนาจศาลทหารไว้ด้วย แม้ใน พ.ร.บ. กฎอัยการศึก (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2502 ซึ่งออกภายหลังจะมิได้ระบุมาตรา334 ก็ตาม แต่ พ.ร.บ.นี้ได้ระบุไว้ชัดใน มาตรา 6 ว่าไม่กระทบกระทั่งประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 16 แต่ อย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแขวงนครราชสีมา ขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ ในฟ้องว่า เหตุเกิดวันที่ ๓๐ ก.ย. ๒๕๐๒
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องอ้างว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน
โจทก์อุทธรณ์ว่า คดีอยู่ในอำนาจศาลพลเรือนเพราะมาตรา ๓๓๔ ที่โจทก์อ้างในฟ้องขอให้ลงโทษนั้นไม่มีในบัญชีท้าย พ.ร.บ. กฎอัยการศึก (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๐๒ จึงต้องฟ้องต่อศาลพลเรือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจศาลทหารตามบัญชีท้ายประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๖ ที่ว่า ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตั้งแต่ มาตรา ๓๓๔ ถึงมาตรา ๓๔๐ และมาตรา ๓๕๗ ให้อยู่ในอำนาจศาลทหาร แม้ใน พ.ร.บ. กฎอัยการศึก (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๐๒ จะมิได้ระบุมาตรา ๓๓๔ ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนี้ก็ตาม แต่พ.ร.บ. นี้มาตรา ๖ ระบุไว้ชัดว่า ไม่กระทบกระทั่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๖ แต่อย่างใด
พิพากษายืน