แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ปัญหาที่ว่าศาลชั้นต้นตั้งให้จ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีรองจ่าศาลจะมีอำนาจบังคับคดีแทนหรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ยกขึ้นฎีกาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา1(14)บัญญัติว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีหมายความว่าเจ้าพนักงานศาลหรือพนักงานอื่นผู้มีอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้อยู่ในอันที่จะปฏิบัติตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในภาค4แห่งประมวลกฎหมายนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งรองจ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานศาลซึ่งเป็นตำแหน่งรองจากจ่าศาลจึงมีอำนาจบังคับคดีได้และแม้หมายบังคับคดีจะระบุให้จ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีก็หาใช่ว่าจะต้องเป็นอำนาจโดยเฉพาะเจาะจงของจ่าศาลแต่ผู้เดียวไม่จ่าศาลย่อมมอบอำนาจให้รองจ่าศาลซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการแทนได้ดังนั้นเมื่อจ่าศาลได้มอบให้รองจ่าศาลเป็นผู้ดำเนินการแทนรองจ่าศาลจึงมีอำนาจบังคับคดีได้ การขายทอดตลาดที่ดินตามคำสั่งของศาลเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่โจทก์ผู้ซื้อแล้วต้องถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์แม้โจทก์จะยังไม่ได้จดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตามส่วนการจะให้จำเลยซื้อที่ดินคืนหรือไม่ยอมเป็นสิทธิของโจทก์จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยไถ่คืนที่ดินและเพิกถอนการขายทอดตลาดที่เสร็จบริบูรณ์ไปแล้วนั้นไม่ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน14,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 400 บาทจำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดเป็นครั้งที่ 5 โจทก์เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด 32,000บาท ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายได้ โจทก์ในฐานะผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวกับเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นอสังหาริมทรัพย์ยังมิได้ทำนิติกรรมจดทะเบียนซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยชอบที่จะขอไถ่คืนทรัพย์ที่ขายได้ ซึ่งก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวแก่โจทก์ จำเลยได้ชำระเงินตามคำพิพากษาบางส่วนแล้วเป็นเงิน 12,000 บาท และโจทก์ได้ขอรับไปจากศาลชั้นต้นแล้วเป็นเงิน 5,000 บาท โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตมาขอให้ขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยเพื่อต้องการที่ดินเป็นของตนทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าจำเลยยังค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียง 2,000 บาท พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมเท่านั้น ในวันเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งประกาศขายทอดตลาดจำเลยไม่อยู่ และไม่ทราบวันเวลาขายทอดตลาดหลังจากนั้นจำเลยไปติดต่อโจทก์จะชำระเงินให้จนครบตามคำพิพากษา แต่โจทก์ไม่ยอมเพราะโจทก์ต้องการที่ดินของจำเลย ขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยไถ่ที่ดินคืนและเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว โดยจำเลยขอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์จนครบ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การขายทอดตลาดบริบูรณ์แล้ว ให้ยกคำร้องศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่ามีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยหรือไม่ จำเลยอ้างว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบเพราะจำเลยไม่ทราบวันขายทอดตลาดเนื่องจากจำเลยไปทำงานที่อำเภอ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เห็นว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาลได้นำประกาศการขายทอดตลาดไปส่งให้จำเลยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2532 แต่เนื่องจากไม่พบจำเลย จึงปิดประกาศการขายทอดตลาดไว้ เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานว่า จำเลยได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่อื่น การส่งประกาศการขายทอดตลาดให้จำเลยด้วยวิธีดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ข้ออ้างของจำเลยฟังไม่ขึ้นจำเลยอ้างเหตุอีกประการหนึ่งว่า ศาลชั้นต้นได้ตั้งให้จ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดี รองจ่าศาลจึงไม่มีอำนาจบังคับคดีแทน ปัญหานี้แม้ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนเห็นควรรับวินิจฉัยให้เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(14) บัญญัติว่า”เจ้าพนักงานบังคับคดี” หมายความว่า เจ้าพนักงานศาลหรือพนักงานอื่นผู้มีอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้อยู่ ในอันที่จะปฏิบัติตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในภาค 4 แห่งประมวลกฎหมายนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งรองจ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานศาลซึ่งเป็นตำแหน่งรองจากจ่าศาลจึงมีอำนาจบังคับคดีได้ คดีนี้แม้หมายบังคับคดีจะระบุให้จ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีก็หาใช่ว่าจะต้องเป็นอำนาจโดยเฉพาะเจาะจงของจ่าศาลแต่ผู้เดียวไม่ จ่าศาลย่อมมอบอำนาจให้รองจ่าศาลซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการแทนได้ ดังนั้น เมื่อคดีนี้ปรากฏว่าจ่าศาลได้มอบให้รองจ่าศาลเป็นผู้ดำเนินการแทนรองจ่าศาลจึงมีอำนาจบังคับคดีได้จำเลยอ้างเหตุประการสุดท้ายว่า การขายทอดตลาดที่ดินซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์เมื่อยังไม่ได้จดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่การขายทอดตลาดก็ยังไม่บริบูรณ์ต้องให้จำเลยไถ่ที่ดินคืนนั้น เห็นว่าการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่โจทก์ผู้ซื้อแล้ว ต้องถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์แม้โจทก์จะยังไม่ได้จดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตามส่วนการจะให้จำเลยซื้อที่ดินคือหรือไม่ยอมเป็นสิทธิของโจทก์ จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยไถ่คืนที่ดินและเพิกถอนการขายทอดตลาดที่เสร็จบริบูรณ์ไปแล้วนั้นไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษามานั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษายืน