คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตาม ป.อ. มาตรา 271 โจทก์ต้องบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสามให้ครบองค์ประกอบความผิดตามที่มาตราดังกล่าวบัญญัติไว้ และบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำความผิดนั้นรวมทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยทั้งสามเข้าใจข้อหาได้ดี ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ด้วย กล่าวคือ โจทก์ต้องบรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามขายของสิ่งใด โดยหลอกลวงด้วยวิธีใดให้โจทก์ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าของนั้นมีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใด หรือสภาพของนั้นเป็นอย่างไร หรือคุณภาพของนั้นเป็นอย่างไร หรือปริมาณแห่งของนั้นว่ามีจำนวนเท่าใดซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงของนั้นมีแหล่งกำเนิดจากที่ใดหรือมีสภาพหรือคุณภาพเป็นอย่างไรหรือมีปริมาณจำนวนเท่าใด แต่โจทก์กลับบรรยายฟ้องยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสามส่งมอบสินค้าผิดรุ่นไม่ตรงตามที่โจทก์สั่งซื้อ มิใช่การส่งมอบสินค้าตรงกับรุ่นที่โจทก์สั่งซื้อแต่สินค้านั้นเป็นสินค้าปลอมแต่อย่างใด มูลคดีที่โจทก์บรรยายฟ้องเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสามปฏิบัติผิดสัญญาซื้อขายเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันเป็นมูลคดีแพ่ง คดีโจทก์จึงไม่มีมูลเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 271

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271, 83 และ 91
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่ามีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์ไม่มีมูลเป็นความผิดอาญาฐานขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ดังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาหรือไม่ ในปัญหานี้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 บัญญัติว่า “ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” การบรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามบทบัญญัติมาตรา 271 นี้ โจทก์ต้องบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสามให้ครบองค์ประกอบของความผิดตามที่มาตรา 271 บัญญัติไว้ และบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำความผิดนั้น รวมทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยทั้งสามเข้าใจข้อหาได้ดี ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) ด้วย กล่าวคือ โจทก์ต้องบรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามขายของสิ่งใดโดยหลอกลวงด้วยวิธีใดให้โจทก์ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าของนั้นมีแหล่งกำเนิดจากที่ใด หรือสภาพของของนั้นเป็นอย่างไรหรือคุณภาพของนั้นเป็นอย่างไร หรือปริมาณแห่งของนั้นว่ามีจำนวนเท่าใดซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงของนั้นมีแหล่งกำเนิดจากที่ใดหรือมีสภาพหรือคุณภาพเป็นอย่างไรหรือมีปริมาณจำนวนเท่าใด แต่ปรากฏจากคำฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์มิได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสามให้ครบองค์ประกอบของความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 โดยโจทก์มิได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามกระทำการหลอกลวงโจทก์ผู้ซื้อด้วยความเท็จให้หลงเชื่อในแหล่งกำเนิดของสินค้าหมึกพิมพ์และหมึกคอมพิวเตอร์ว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใดหรือสภาพหรือคุณภาพของสินค้านั้นเป็นอย่างไร หรือปริมาณของสินค้านั้นมีจำนวนเท่าใด ความจริงแหล่งกำเนิดหรือสภาพหรือคุณภาพหรือปริมาณของสินค้าหมึกพิมพ์และหมึกคอมพิวเตอร์นั้นมาจากที่ใด เป็นอย่างไร หรือมีจำนวนเท่าใด โจทก์กลับบรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสามหลอกลวงโจทก์ให้หลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งของอันเป็นเท็จ โดยนำสินค้าปลอมมาขายให้แก่โจทก์ดังนี้ วันที่ 28 เมษายน 2549 โจทก์สั่งซื้อหมึกพิมพ์รายการที่ 3 ยี่ห้อบราเดอร์ รุ่นแอลซี สี่เจ็ด บีเค จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 590 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 2,950 บาท แต่จำเลยทั้งสามส่งมอบสินค้ายี่ห้อบราเดอร์ รุ่นแอลซี สี่เจ็ด เอ็มเอฟซี สี่หนึ่งศูนย์ ซีเอ็น จำนวน 5 กล่อง ให้แก่โจทก์ วันที่ 30 พฤษภาคม 2549 โจทก์สั่งซื้อหมึกคอมพิวเตอร์จากจำเลยที่ 1 ตามรายการที่ 8 ยี่ห้อบราเดอร์ รุ่นแอลซี สี่เจ็ด ซี จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 335 บาท และรายการที่ 9 ยี่ห้อบราเดอร์ รุ่นแอลซี สี่เจ็ด เอ็ม ราคากล่องละ 335 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 3,350 บาท แต่จำเลยทั้งสามส่งมอบรายการที่ 1 รุ่นอิงค์แอลซี สี่เจ็ด บีเค ฟอร์เอ็มเอฟซี 4100 ซี 3240 จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 580 บาท และรายการที่ 2 รุ่นอิงค์ แอลซี สี่เจ็ด วาย ฟอร์เอ็มเอฟซี 4100 ซี 210 ซี 3240 จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 335 บาท ให้แก่โจทก์และวันที่ 7 สิงหาคม 2549 โจทก์สั่งซื้อหมึกคอมพิวเตอร์จากจำเลยที่ 1 รายการที่ 1 ยี่ห้อบราเดอร์ รุ่นแอลซี สี่เจ็ด บีเค ออริจินอล จำนวน 5 กล่อง ราคา (ที่ถูกราคากล่องละ) 580 บาท และรายการที่ 2 ยี่ห้อบราเดอร์ รุ่นแอลซี สี่เจ็ด วาย ออริจินอล จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 335 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 4,575 บาท แต่จำเลยทั้งสามส่งมอบสินค้ารายการที่ 1 อิงค์แอลซี สี่เจ็ด บีเค ฟอร์เอ็มเอฟซี 4100 ซี 210 ซี 3240 จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 580 บาท รายการที่ 2 อิงค์ ฟอร์แอลซี สี่เจ็ด วาย ฟอร์เอ็มเอฟซี 4100 ซี, 210 ซี, 3240 จำนวน 5 กล่อง ราคากล่องละ 335 บาท ให้แก่โจทก์ในวันที่ 8 สิงหาคม 2549 เห็นว่า การบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวเป็นการบรรยายฟ้องยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามส่งมอบสินค้าผิดรุ่นไม่ตรงตามรุ่นสินค้าที่โจทก์สั่งซื้อ มิใช่การส่งมอบสินค้าตรงกับรุ่นที่โจทก์สั่งซื้อแต่สินค้านั้นเป็นสินค้าปลอมแต่อย่างใด มูลคดีที่โจทก์บรรยายฟ้องเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสามปฏิบัติผิดสัญญาซื้อขายสินค้าเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันเป็นมูลคดีแพ่ง ที่โจทก์บรรยายฟ้องเช่นนี้จึงไม่มีมูลคดีที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดฐานขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้โจทก์ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเห็นว่าคดีของโจทก์ไม่มีมูลและพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share