แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ท.ซึ่งผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ยกเครื่องเลื่อยพิพาทให้ผู้เสียหายเพื่อตีใช้หนี้นั้นยังโต้เถียงกรรมสิทธิ์กับจำเลย และ ท.หาได้ยกเครื่องเลื่อยให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายไม่ ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายจึงไม่ใช่เจ้าของหรือเจ้าของรวมในเครื่องเลื่อยรายพิพาท แต่กลับฟังได้ว่าเป็นของจำเลย ฉะนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยยกปืนจ้องไปทาง ป.ซึ่งครอบครองเลื่อยของจำเลยเป็นทำนองมิให้ขัดขวาง เพราะ ป.ไม่ยอมให้แล้วจำเลยเอาเครื่องเลื่อยไปเช่นนี้ หาเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ดังโจทก์ฟ้องไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องอีก ๑ คนมีอาวุธปืนลูกซองยาว ๑ กระบอกติดตัวได้ร่วมกันลักเครื่องเลื่อยยนต์ ๑ เครื่อง ราคา ๑๑,๕๐๐ บาทของนายแนบ ดอกบัว ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายประดิษฐ์ กิจวิจิตรไป โดยจำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวและวาจาขู่เข็ญว่าจะยิงนายประดิษฐ์ กิจวิจิตร เพื่อความสะดวกในการลักทรัพย์ พาทรัพย์นั้นไปให้ยื่นให้และยึดถือทรัพย์นั้นไว้และเพื่อให้พ้นการจับกุม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๓๓๙, ๓๔๐ ตรี ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓, ๓๓๙, ๓๔๐ ตรี ฯลฯ จำคุก ๑๕ ปี ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่านายท่วง นวลจริง พยานโจทก์ซึ่งผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ยกเครื่องเลื่อยรายพิพาทให้ผู้เสียหายเพื่อตีใช้หนี้นั้นยังโต้เถียงกรรมสิทธิ์กับจำเลยในเครื่องเลื่อยนี้อยู่ และนายท่วง นวลจริง ว่าได้ให้ผู้เสียหายนำเครื่องเลื่อยไปซ่อมแล้วตนไม่มีเงินค่าซ่อมให้ผู้เสียหายที่ออกไปก่อนจึงมอบเครื่องเลื่อยให้ผู้เสียหายใช้ไปพลางก่อน หาใช่ยกเครื่องเลื่อยให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไม่ ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายไม่ใช่เจ้าของหรือเจ้าของรวมในเครื่องเลื่อยรายพิพาท แต่กลับฟังได้ว่าเป็นของจำเลย ฉะนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยยกปืนจ้องไปทางนายประดิษฐ์ กิจวิจิตร ซึ่งครอบครองเครื่องเลื่อยของจำเลยเป็นทำนองมิให้ขัดขวาง เพราะนายประดิษฐ์ กิจวิจิตรไม่ยอมให้ แล้วจำเลยเอาเครื่องเลื่อยไปเช่นนี้หาเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ดังโจทก์ฟ้องไม่
พิพากษายืน