คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2443/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์บรรยายแต่เพียงว่าจำเลยเบิกพัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าไปจากโจทก์เอาไปใช้งานแล้วมีของเหลือไม่ส่งคืนและปรับปรุงรื้อถอนอุปกรณ์การไฟฟ้าแล้วไม่ส่งคืนโจทก์ทำให้อุปกรณ์การไฟฟ้าขาดบัญชีเป็นเงินจำนวนหนึ่งโดยมิได้กล่าวว่าจำเลยเบิกอุปกรณ์การไฟฟ้าอย่างใดไปจากโจทก์เมื่อใดกี่ครั้งแต่ละครั้งเป็นเงินเท่าใดรื้ออุปกรณ์การไฟฟ้าอย่างใดและอย่างใดไม่ส่งคืนเป็นเงินเท่าใดฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเป็นฟ้องเคลือบคลุม(ประชุมใหญ่ครั้งที่2/2529).

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ที่ 1 เป็น พนักงาน ช่างไฟฟ้า ของ โจทก์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 เป็น ผู้ ค้ำประกัน ความเสียหาย ใน การ ทำงาน ของ จำเลยที่ 1 จำเลย ที่ 1 ได้ เบิก พัสดุ อุปกรณ์การไฟฟ้า จาก โจทก์ เอา ไป ใช้งาน มี ของเหลือ แล้ว ไม่ ส่ง คืน และ ปรับปรุง รื้อถอน อุปกรณ์การไฟฟ้าแล้ว ไม่ ส่ง คืน โจทก์ โจทก์ ตั้ง กรรมการ สอบสวน มี อุปกรณ์ไฟฟ้า ขาดบัญชี ซึ่ง จำเลย ที่ 1 ต้อง รับผิด ชดใช้ ให้ โจทก์ เป็น เงิน287,446.18 บาท จำเลย ที่ 1 ขาด งาน ติดต่อ กัน เกิน 15 วัน และ ถูกไล่ออก จาก งาน ไป แล้ว การ ที่ จำเลย ที่ 1 ทำ ให้ โจทก์ เสียหายจำเลย ที่ 2 ที่ 3 ต้อง รับผิด ชดใช้ ใน ฐานะ ผู้ ค้ำประกัน ขอ ให้บังคับ จำเลย ทั้ง สาม ร่วมกัน ชำระ ค่าเสียหาย ดังกล่าว พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ที่ 1 ขาดนัด ยื่น คำให้การ และ ขาดนัด พิจารณา
จำเลย ที่ 2 ที่ 3 ให้การ ว่า เป็น ผู้ คำ้ประกัน จริง ฟ้อง โจทก์เคลือบคลุม เพราะ มิได้ บรรยาย ว่า จำเลย ที่ 1 มี ตำแหน่ง หน้าที่รับผิด ชอบ ใน การ ปฏิบัติ งาน อะไร ณ ที่ใด จำเลย ที่ 1 ได้ เบิกพัสดุ อะไร ไป เมื่อใด ราคา เท่าใด เหตุใด โจทก์ จึง ปล่อยปละ ละเลยให้ จำเลย ที่ 1 สร้าง ความเสียหาย ติดต่อ กัน เป็น ระยะ เวลา ยาวนานเช่นนั้น ทรัพย์ ที่ เสียหาย บางส่วน มี คนร้าย ขโมย ไป หาก ว่า จำเลยที่ 2 ต้อง ชดใช้ ก็ ไม่ เกิน 100,000 บาท ฟ้อง โจทก์ ขาด อายุความ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน รับผิดชดใช้ ค่าเสียหาย 287,466.18 บาท พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัย ว่า ฟ้อง เคลือบคลุม พิพากษา กลับ ให้ ยกฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา โดย มติ ที่ ประชุมใหญ่ วินิจฉัย ว่า โจทก์ บรรยายฟ้อง เพียงว่า จำเลย ที่ 1 ได้ เบิก พัสดุ อุปกรณ์ ไป จาก โจทก์ เอา ไป ใช้ งานแล้ว มี ของ เหลือ ไม่ ส่ง คืน ปรับปรุง รื้อถอน อุปกรณ์การไฟฟ้า แล้วไม่ ส่ง คืน ปรากฏ ว่า มี อุปกรณ์ไฟฟ้า ขาด บัญชี เป็น เงิน 287,466.18บาท นั้น เป็น การ บรรยายฟ้อง ที่ กว้างขวาง มาก เกินไป ซึ่ง จำเลย ทั้งสาม ย่อม ไม่ สามารถ จะ ทราบ จาก คำฟ้อง ของ โจทก์ ว่า จำเลย ที่ 1เบิก พัสดุ อุปกรณ์การไฟฟ้า อย่างใด ไป จาก โจทก์ บ้าง เบิก ไป เมื่อใด เป็น จำนวน กี่ครั้ง แต่ละ ครั้ง เป็น เงิน เท่าใด ส่วน ข้อกล่าวหาจำเลย รื้อ อุปกรณ์การไฟฟ้า นั้น ก็ ไม่ ได้ ระบุ ว่า รื้อ อุปกรณ์อย่างใด ไป บ้าง เมื่อใด และ ไม่ ส่ง คืน อุปกรณ์การไฟฟ้า อย่างใด แก่โจทก์ คิด เป็น เงิน เท่าใด โจทก์ รวบรัด กล่าว รวมยอด อย่าง หยาบๆว่า มี อุปกรณ์การไฟ้ฟา ขาด บัญชี คิด เป็น เงิน 287,466.18 บาท แล้วให้ จำเลย ทั้ง สาม ร่วมกัน ชดใช้ เงิน จำนวน ดังกล่าว แก่ โจทก์เช่นนี้ ถือ ว่า ฟ้อง ของ โจทก์ ขาด ข้อเท็จจริง อัน เป็น สาระ สำคัญที่ จะ ต้อง กล่าว ไว้ เพื่อ จำเลย จะ ได้ ต่อสู้ คดี ได้ อย่าง ถูกต้อง หา ใช่ เป็น รายละเอียด ที่ จะ นำสืบ ใน ชั้นพิจารณา ไม่ ฟ้อง ของโจทก์ จึง เป็น ฟ้อง ที่ มิได้ แสดง โดย แจ้งชัด ซึ่ง สภาพ แห่ง ข้อหาทั้ง ข้ออ้าง ที่ อาศัย เป็น หลัก แห่ง ข้อหา เป็น ฟ้อง เคลือบคลุม
พิพากษา ยืน.

Share