คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2436/2540

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การขอถอนคำขอรับชำระหนี้ที่ศาลอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้แล้ว เป็นสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะทำได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องอนุญาตการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตจึงไม่ถูกต้อง และเมื่อศาลชั้นต้นไม่ต้องอนุญาต จึงไม่จำต้องสอบถามจำเลยหรือจะต้องไต่สวนคำร้องคัดค้านของจำเลยก่อน
ศาลพิพากษาให้จัดการทรัพย์มรดกของจำเลยตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 84 และ 87 มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ 4 ราย สำหรับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 1 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำขอ ส่วนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ได้มีการขอถอนคำขอรับชำระหนี้แล้วจึงไม่มีเจ้าหนี้ที่จะขอรับชำระหนี้ต่อไป เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจร้องขอให้ศาลสั่งยกเลิกการล้มละลายได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 135(2)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ระหว่างพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ จำเลยถึงแก่ความตายจึงให้เรียกนางสาวพรนิภา พงษ์วิทยภานุทายาทและผู้จัดการมรดกจำเลยเข้าแทนที่จำเลยผู้ตาย ต่อมาศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จัดการทรัพย์มรดกของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 84, 87 หลังจากนั้นมีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ 4 ราย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 รับชำระหนี้ได้ ส่วนเจ้าหนี้รายที่ 1 ให้ยกคำขอ วันที่ 27ธันวาคม 2537 เจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอถอนคำขอรับชำระหนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำขอรับชำระหนี้ได้เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2538 ต่อมาวันที่ 13 มกราคม 2538 จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการถอนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งสามรายดังกล่าวโดยอ้างว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนการโอนที่ดินและขอให้เพิกถอนการโอนหุ้นระหว่างจำเลยกับเจ้าหนี้รายที่ 2 และที่ 3 คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น แต่เจ้าหนี้รายที่ 2และที่ 3 สมคบกับโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายที่ 4 ขอถอนคำขอรับชำระหนี้ทำให้เกิดความเสียหายแก่กองทรัพย์สินของจำเลยเนื่องจากหากดำเนินคดีต่อไปและศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอนตามคำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ทรัพย์สินดังกล่าวก็จะกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย จึงขอให้ชะลอการถอนคำขอรับชำระหนี้และชะลอการยกเลิกการล้มละลายไว้เพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมทรัพย์สินของจำเลยให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ถอนคำขอรับชำระหนี้แล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานต่อศาลชั้นต้นว่า ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ถอนคำขอรับชำระหนี้ได้ คดีจึงไม่มีเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้แต่อย่างใดอันเป็นเหตุให้ลูกหนี้ไม่สมควรถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลายตามมาตรา 135(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ขอให้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าก่อนศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ศาลมิได้สอบถามจำเลยว่าจะคัดค้านหรือไม่ และศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไต่สวนคำร้องคัดค้านของจำเลยเสียก่อนนั้น เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ได้รับชำระหนี้และยกคำขอของเจ้าหนี้รายที่ 1 การที่เจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ยื่นคำร้องขอถอนคำขอรับชำระหนี้ก็เป็นสิทธิของเจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ที่จะสละสิทธิในการที่จะได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้หาจำต้องได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นให้ถอนคำขอรับชำระหนี้แต่อย่างใดไม่กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องอนุญาต การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตจึงไม่ถูกต้อง และเมื่อไม่มีกรณีที่ศาลชั้นต้นจะต้องอนุญาตเสียแล้ว กรณีก็ไม่จำต้องสอบถามจำเลยหรือจะต้องไต่สวนคำร้องคัดค้านของจำเลยก่อนแต่อย่างใดส่วนที่จำเลยฎีกาว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นเพียงแต่ให้จัดการทรัพย์มรดกของจำเลยตามมาตรา 84 และ 87 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มิได้พิพากษาให้จำเลยล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายนั้น เห็นว่า คดีนี้ศาลฎีกาได้พิพากษาให้จัดการทรัพย์มรดกของจำเลย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 84 และ 87 มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้4 ราย สำหรับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 1 ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งยกคำขอ ส่วนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ได้มีการขอถอนคำขอรับชำระหนี้แล้ว จึงไม่มีเจ้าหนี้ที่จะขอรับชำระหนี้ต่อไป ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจร้องขอให้ศาลสั่งยกเลิกการล้มละลายได้ตามมาตรา 135(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล”

พิพากษายืน

Share